กรุงเทพฯ 20 กันยายน 2564 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือ ดีพร้อม จับมือ ช้อปปี้ เร่งเครื่อง เพิ่มศักยภาพผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนสู่มิติแห่งช่องทางการขายชีวิตวิถีใหม่บนช้อปปี้ เน้นช่วยส่งเสริมการขายให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเพิ่มโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการได้มีช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ถือเป็นอีกก้าวที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์วิสาหกิจชุมชนที่ก้าวสู่แพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้าคัดเลือกผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนเข้าร่วมแคมเปญอีเวนท์ออนไลน์เพิ่มเติม
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมที่มีการรวมกลุ่มของบุคคลจำนวนมากได้ จึงเป็นอุปสรรคต่อการ จัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบเดิม นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ได้สั่งการให้ ดีพร้อม เร่งหาช่องทองการตลาดรูปแบบใหม่เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ จึงเป็นที่มาของกิจกรรมทดสอบตลาด (Market Test) ภายใต้ โครงการพัฒนาและยกระดับขีดความสามารถวิสาหกิจชุมชนคลื่นลูกใหม่เพื่อการแข่งขัน ในตลาด New Normal ผ่านช่องทางออนไลน์ บนแพลตฟอร์มช้อปปี้ เพื่อจำหน่ายสินค้าชุมชนและส่งเสริมการขายให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการได้มีช่องทางการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งเป็นวิธีสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ในสถานการณ์ปัจจุบัน โดยช้อปปี้ถือเป็นแพลตฟอร์มช็อปปิ้งออนไลน์ที่เติบโตเร็วสุด ในภูมิภาคอาเซียนและได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 ในประเทศไทยอีกด้วย
“ดีพร้อม ได้คัดเลือกผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนจากโครงการ “คลื่นลูกใหม่ หัวใจชุมชน” ซึ่งเป็นโครงการที่มุ่งเน้นการสร้างโอกาสทางการตลาดให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่ผ่านการคัดสรรมาแล้ว จำนวน 130 ราย ทั่วประเทศ ผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ รวมทั้งได้จัดอบรมให้ความรู้ในการเปิดร้านบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ แล้วนำทั้ง 130 ร้าน ร่วมแคมเปญในรูปแบบไมโครไซต์ หรือเว็บไซต์ย่อยภายใต้เว็บไซต์ Shopee ( www.shopee.co.th/diprom2021) โดยลูกค้าผู้สนใจสามารถเข้าไปเลือกช้อปสินค้าคุณภาพ ได้ตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ไปจนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2564 ซึ่งไฮไลท์ของแคมเปญนี้ ประกอบไปด้วย การแจกคูปอง (Voucher) ที่สามารถนำไปใช้เป็นส่วนลดพิเศษในการซื้อสินค้าและมีการรีวิวโดย อินฟลูอินเซอร์ หรือผู้มีอิทธิพล ผู้มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ที่มีผู้ติดตามเป็นจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความหน้าสนใจให้แก่สินค้าของผู้ประกอบการที่เข้าร่วมกิจกรรมนอกจากนี้ ดีพร้อม ยังเปิดโอกาสให้วิสาหกิจชุมชนรายอื่นๆ ที่สนใจ เข้าร่วมกิจกรรมนี้เพิ่มเติมได้ โดยเปิดร้านบนแพลตฟอร์มช้อปปี้แล้วส่งข้อมูลร้านค้ามาที่ดีพร้อมเพื่อสมัครเข้าร่วมกิจกรรม หรือหากยังไม่มีร้าน ทางดีพร้อมก็มีคลิปวีดิโอและคู่มือเปิดร้านบนแพลตฟอร์มช้อปปี้เบื้องต้นให้เรียนรู้ได้ที่ Facebook Fan Page: คลื่นลูกใหม่หัวใจชุมชน ซึ่งกลุ่มผู้ประกอบการที่สมัครเพิ่มเติมภายหลังนี้ จะเรียกว่าภาคสมัครใจ และสามารถสมัครเข้าร่วมกิจกรรมได้ถึงวันที่ 24 กันยายน 2564 ซึ่งจะสามารถร่วมกิจกรรมได้จนถึงวันที่ 19 ธันวาคม 2564 โดยหลังจากช่วงเวลาดังกล่าว ผู้ประกอบการจะยังมีร้านอยู่บนแพลตฟอร์มช้อปปี้เพื่อเป็นอีกหนึ่งช่องทางในการจำหน่ายสินค้าต่อไป
หากมองในมุมของการสร้างโอกาสในวิกฤติ กิจกรรมนี้นับว่าเป็นอีกช่องทางให้ผู้ประกอบการยังสามารถจำหน่ายสินค้าได้ รวมทั้งได้พัฒนาศักยภาพและเรียนรู้วิธีการทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ โดยดีพร้อมก็จะอยู่เคียงข้าง สนับสนุน และหาทางสร้างโอกาสในการพัฒนาผู้ประกอบการทั่วประเทศต่อไป จึงขอเชิญชวนทุกท่าน มาช่วยกันสนับสนุนผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนจากทั่วประเทศ ผ่านกิจกรรม “ตลาดสินค้าคลื่นลูกใหม่ หัวใจชุมชน บนแพลตฟอร์มช้อปปี้” นายณัฐพล กล่าวทิ้งท้าย
ด้านผู้แทน บริษัท ช้อปปี้ (ประเทศไทย) ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้ร่วมมือกับ กสอ. ผลักดันแคมเปญพิเศษ “ตลาดสินค้าคลื่นลูกใหม่ หัวใจชุมชน” ซึ่งนับเป็นความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรกระหว่างสององค์กร ทางช้อปปี้พร้อมจะใช้ศักยภาพของแพลตฟอร์มของ Shopee ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้งานในทั่วประเทศ ช่วยส่งเสริมความมุ่งมั่นและตั้งใจของ กสอ. ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านธุรกิจออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนจากทั่วประเทศ ทั้งนี้ด้วยพันธกิจองค์กรของ Shopee ในการมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยผ่านเทคโนโลยี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือในครั้งนี้ จะช่วยผลักดันและเสริมศักยภาพให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนจากทั่วประเทศสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่สำคัญนี้ได้อย่างแข็งแรงและเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาอุตสาหกรรมชุมชน กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2367 8338 หรือติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/dipromindustry