“แม่ศรีเรือน” ปรับกลยุทธ์สานต่อตำรับความอร่อยยุค New Normal เปิดตัวเมนูทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพ ก้าวสู่ปีที่ 60 อย่างมั่นคง

จากตำนาน “ร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน” เตรียมสานต่อต้นตำรับความอร่อยสู่ปีที่ 60 ปรับกลยุทธ์ธุรกิจผ่านวิกฤตรับยุค New Normal จับมือ เวลเนส แคร์ เปิดร้าน “เวลเนส กรีน ช็อป (Wellness Green Shop)” สาขาแม่ศรีเรือน สุขาภิบาล3 เพิ่มเมนูทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพ ภายใต้สโลแกน “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” มื้ออร่อยสูตร 2:1:1 พร้อมเพิ่มสินค้า 2 ทางเลือกตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ “น้ำแกงปรุงสำเร็จ” สะดวก อร่อย ง่ายๆ สไตล์แม่ศรีเรือน ตอบรับกลุ่ม Home Cooking และ “สำรับแม่ศรีเรือน” 30 วันไม่ซ้ำเมนู รับกลุ่มวัยทำงานและผู้สูงอายุ รองรับสังคมของผู้สูงวัย มั่นใจปรับตัวตรงจุด พร้อมส่งแม่ศรีเรือนก้าวข้ามวิกฤตได้อย่างมีคุณภาพ

นายชาณ เรืองรุ่ง กรรมการบริหาร บริษัท ครัวแม่ศรีเรือน จำกัด, บริษัท แม่ศรีเรือนไทยฟู้ดส์ จำกัด  และบริษัท แม่ศรีเรือนอินเตอร์ฟู้ดโปรดักส์ จำกัด เปิดเผยเล่าย้อนไปถึงความเป็นมาของร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน ว่า แม่ศรีเรือนเริ่มจากธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวไก่เล็กๆ ทำกันในครอบครัวที่พัทยากลาง แต่ต่อมาเมื่อร้านเริ่มเป็นที่กล่าวขวัญกันปากต่อปากจากลูกค้าต่างจังหวัด ถึงรสชาติที่แสดงออกถึงความรักและความใส่ใจในทุกขั้นตอน นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นการเปิดสาขาแรกของ ‘ก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน’ ที่กรุงเทพฯ ในปี พ.ศ. 2521 หลังจากการเปิดสาขาขึ้นที่กรุงเทพฯ ร้านแม่ศรีเรือนก็พัฒนาตัวเอง และเติบโตขึ้นต่อเนื่องมาโดยตลอด จากแนวคิดที่ว่า ‘แม่ศรีเรือนจะเป็นสำรับกับข้าวที่สองของครอบครัวไทย’ จากนั้นเมนูก๋วยเตี๋ยวไก่ต้นตำรับ ก็ขยายมาเป็นอาหารจานเดียว และอาหารไทยที่มีความหลากหลายมากขึ้น ที่สำคัญเรายังได้นำความรักและความใส่ใจในวันแรกที่เปิดร้าน มาใช้กับการเปิด ‘ครัวกลาง’ เพื่อรักษามาตรฐานของวัตถุดิบ ให้มีคุณภาพใกล้เคียงกันในทุกจาน โดยเน้นเรื่องรสชาติและความปลอดภัยของผู้ทานเป็นสำคัญ เรียกว่าถ้าใครไม่อยากยุ่งยากในการทำอาหารที่บ้านให้นึกถึงแม่ศรีเรือนเป็นที่แรก

 “ระยะเวลารวมกว่า 60 ปีที่เปิดร้านมา ร้านแม่ศรีเรือนเจออุปสรรคมามากมาย แต่ในปีนี้ที่ทุกคนต่างปรับวิถีการดำเนินชีวิตในเรื่องการกินไปอย่างมาก ผู้คนตระหนักถึงการดูแลสุขภาพตัวเองและครอบครัว ทั้งยังเน้นถึงคุณค่าทางโภชนาการของอาหารที่ทานเข้าไปในแต่ละวันด้วย ร้านแม่ศรีเรือนจึงมีแนวคิดที่จะนำแก่นแท้ของของความเป็นแม่ศรีเรือน ที่เราให้ความสำคัญกับคุณภาพของวัตถุดิบ และมีความละเมียดละไม ประณีตใส่ใจในทุกขั้นตอนการปรุง ให้ได้รสชาติอาหารอร่อยตำรับไทยแท้ที่ทุกคนคุ้นเคยและเข้าถึงได้ง่าย มาพัฒนาเข้ากับ ‘เมนูอาหารเพื่อสุขภาพ’ เพิ่มเติมจากเมนูอาหารปกติของร้าน เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ให้ผู้ที่รักสุขภาพ ทั้งยังส่งเสริมนโยบายรัฐ (สสส.) รณรงค์ให้คนไทยใส่ใจสุขภาพ ลดอัตราการเจ็บป่วยจากกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ภายใต้สโลแกน ‘ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ’ มื้ออร่อยสูตร 2:1:1”

 เมนูอาหาร “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” เป็นการวางทางเลือกใหม่เพื่อสุขภาพจากร้านแม่ศรีเรือน ทั้งยังเป็นหนึ่งในความร่วมมือครั้งสำคัญของก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือน กับ ศูนย์ธรรมชาติบำบัด เวลเนส แคร์ โดย “นายแพทย์บุญชัย อิศราพิสิษฐ์” ศูนย์ทางเลือกสุขภาพที่ใช้แนวทางวิถีทางธรรมชาติบำบัด ปรับพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิต ด้วยการประยุกต์ใช้อาหารเป็นยาและทดแทนการใช้วิตามิน เพื่อสร้างสมดุลทางด้านสุขภาพกายและสุขภาพใจควบคู่กัน ต่อยอดเพื่อ ‘ลด’ จำนวนผู้เจ็บป่วยด้วยกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) ในสังคมไทย ซึ่งเมนูอาหารทางเลือกเพื่อสุขภาพนี้ ได้เริ่มพัฒนาและวางจำหน่ายที่ร้านแม่ศรีเรือน สาขาสุขาภิบาล3  ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ผู้รักสุขภาพในพื้นที่ใกล้เคียง ใช้บริการได้ง่าย สะดวกรวดเร็ว และประหยัดเวลาในการเดินทาง ที่เดียวทานครบจบทุกสำรับเมนูอาหาร

 สำหรับเมนู “ทำด้วยใจ..ดีต่อสุขภาพ” ของร้านแม่ศรีเรือน จะให้ความสำคัญในการคัดสรรวัตถุดิบเพื่อความปลอดภัยกับผู้บริโภค โดยการล้างผักผลไม้ด้วยเครื่องล้างผักโอโซน และเลือกใช้วัตถุดิบจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน (ผักปลอดสาร / ผักอินทรีย์ 70%) ปรุงตามสูตร 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน, ข้าว 1 ส่วน และเนื้อ 1 ส่วน ภายใต้แนวคิดการพัฒนาเมนูอาหารที่ เพิ่มกากใย (HIGH FIBER), ไม่ใส่ผงชูรส (NO MSG), ลดหวาน (LOW SUGAR), ลดเค็ม (LOW SODIUM), ลดมัน (LOW FAT), งดแป้งขัดขาว, งดเนื้อแดง และแสดงปริมาณแคลอรี่ต่อจาน ให้คุณค่าทางโภชนาการครบทั้ง 5 หมู่ จากเมนูที่มีความหลากหลาย อาทิ ก๋วยเตี๋ยวไก่สุขภาพ, ข้าวกะเพราไก่, ข้าวผัดกุ้ง, ข้าวผัดน้ำพริกลงเรือ, ผัดไทยกุ้ง, ราดหน้าเส้นหมี่ข้าวกล้องไก่, ยำทูน่า, สลัดโรล และอื่นๆ อีกมากมาย

 นายชาณ กล่าวต่อไปว่า “นอกเหนือจากเมนูอาหารเพื่อสุขภาพแล้ว ร้านแม่ศรีเรือนยังมีการวางแนวคิดธุรกิจใหม่ๆ ในด้านต่างๆ เพื่อปรับตัวเองให้เข้ากับการดำเนินงานในวิกฤตโควิด-19 ในรูปแบบ New Normal โดยที่ผ่านมา ร้านแม่ศรีเรือนได้ใช้มาตรการเพื่อความปลอดภัยในการปรุงอาหารเพื่อลูกค้ามาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐาน 7 ขั้นตอนสำหรับพนักงาน ตามแนวทาง Social Distancing เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อและสร้างความมั่นใจให้ลูกค้าในการสั่งอาหารที่ร้านแม่ศรีเรือนทุกสาขา รวมไปถึงให้บริการ Cashless เพิ่มช่องทางชำระเงินอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ทั้งจากการโอนชำระผ่าน Banking Application, การชำระผ่าน QR Code และการชำระด้วยเครดิตการ์ด อีกทั้งในช่วงปลายปีนี้ แม่ศรีเรือนจะเพิ่มสินค้า 2 ตัวเลือกใหม่ อย่าง น้ำแกงปรุงสำเร็จ และ สำรับแม่ศรีเรือน ที่มีความโดดเด่น ตอบโจทย์เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ของทุกคน”

 การเพิ่มสินค้า 2 ตัวเลือกใหม่ของร้านแม่ศรีเรือน ถือเป็นการใช้แนวทางความใส่ใจในการปรุงอาหาร มาเป็นการแก้โจทย์ชีวิตวิถีใหม่หรือ New Normal ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย “น้ำแกงปรุงสำเร็จ” เป็นการนำเอา Pain point ผู้บริโภคที่ไม่สามารถทำงานประจำได้เหมือนเคย ให้หันมาลงมือทำอาหารที่บ้าน (Home Cooking) ได้ง่ายขึ้น ภายใต้แนวคิด “สะดวก อร่อย ง่ายๆ สไตล์แม่ศรีเรือน” เพียงเพิ่มเติมเนื้อและผักลงในน้ำแกงไทยปรุงสำเร็จ ก็จะได้แกงไทยรสชาติอร่อยในทันที ไม่ว่าจะเป็น น้ำแกงส้ม, น้ำแกงเขียวหวาน, น้ำแกงพะแนง, น้ำแกงเลียง ฯลฯ สำหรับในส่วนของ “สำรับแม่ศรีเรือน” เป็นเมนูในรูปแบบของปิ่นโต สำรับกับข้าวปรุงสดใหม่ ส่งถึงบ้านได้โดยตรง โดดเด่นด้วยแนวคิด “30 วันไม่ซ้ำเมนู” เพื่อเป็นทางเลือกให้กลุ่มวัยทำงานที่ไม่มีเวลาทำอาหาร ที่สำคัญยังเป็นทางเลือกให้กับการดูแลกลุ่มผู้สูงอายุ รองรับการเข้าสู่สังคมของผู้สูงวัย (Aging Society) ได้เป็นอย่างดี

 “ปัจจุบันร้านก๋วยเตี๋ยวไก่แม่ศรีเรือนมีสาขาที่กรุงเทพและปริมณฑล 27 สาขา ที่พัทยา 4 สาขา และที่หัวหินอีก 1 สาขา รวมทั้งหมด 32 สาขา ด้วยจำนวนสาขาในการดูแลที่มาก เราถือเป็นเรื่องของความท้าทาย ที่แม่ศรีเรือนต้องก้าวข้ามวิกฤตการแข่งขันที่รุนแรงไปให้ได้ ท่ามกลางโจทย์ทางธุรกิจที่มากมายทั้งในส่วนของรายได้และต้นทุนรอบด้าน แต่ในอีกมุมยังมีข้อบวกคือธุรกิจร้านอาหารถือเป็นธุรกิจที่ยังสามารถเติบโตได้อยู่แม้ไม่สูงมากนัก ทั้งนี้เพราะอาหารคือหนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็น อีกทั้งพฤติกรรมของคนไทยที่เคยนิยมทานอาหารนอกบ้านในห้างสรรพสินค้า ก็เปลี่ยนไปเป็นการทานที่ร้าน Stand Alone หรือศูนย์การค้าขนาดเล็กแทน หรือแม้แต่การเลือกปรุงอาหารรับประทานกันเองที่บ้านก็มีเพิ่มขึ้น นั่นเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนของวิกฤตโควิด-19

 “อย่างไรก็ตามด้วยแนวโน้มที่เติบโตเห็นได้ชัดของกลุ่มผู้บริโภคที่ให้ความสนใจเรื่องสุขภาพ รวมถึงกลุ่มที่ต้องการความสะดวกรวดเร็ว ความหลากหลาย ภายใต้ราคาที่สมเหตุสมผล ถือเป็นโจทย์ที่ท้าทายของร้านแม่ศรีเรือนในการที่จะตอบรับกับผู้บริโภคกลุ่มนี้ได้อย่างลงตัว เพราะอาหารที่เราปรุงด้วยความใส่ใจจะถูกส่งไปถึงบ้าน ด้วยบริการดิลิเวอรี่จากผู้ให้บริการอย่าง Grab, Line Man, Gojek, Lalamove รวมถึงช่องทางดิลิเวอรี่ของร้านแม่ศรีเรือนเอง เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ และการเปิดตัวเมนูทางเลือกใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาหารเพื่อสุขภาพ, น้ำแกงปรุงสำเร็จ หรือแม้แต่สำรับแม่ศรีเรือน คือบททดสอบว่าเรากำลังปรับตัวไปในทิศทางเดียวกันกับผู้บริโภคอย่างตรงจุด และจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะช่วยให้ร้านแม่ศรีเรือนสามารถก้าวข้ามวิกฤตครั้งนี้ไปได้” นายชาณ สรุปทิ้งท้าย

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *