
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เดินหน้าสนับสนุนผู้ประกอบการ SME ต่อเนื่อง ผ่านโครงการส่งเสริมผู้ประกอบการผ่านระบบ Business Development Service (BDS) หรือ “SME ปัง ตังได้คืน” นำผู้ประกอบการเข้าร่วมออกบูธในงาน Thailand Friendly Design Expo 2025 ที่จัดขึ้นเพื่อนำเสนอสินค้า นวัตกรรม เทคโนโลยี การออกแบบ และบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ผู้สูงวัยและผู้พิการรวมไปถึงการท่องเที่ยวที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ภายใต้แนวคิด “การเข้าถึงอย่างเท่าเทียม (Equal Access for All) ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 11–14 ธันวาคม 2568 ณ ศูนย์การประชุมไบเทค บางนา

ดร. ปณิตา ชินวัตร รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการ สสว. เปิดเผยว่า “โครงการSME ปัง ตังได้คืน ซึ่งดำเนินต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 มีบทบาทสำคัญในการช่วยลดต้นทุนให้ผู้ประกอบการ โดยให้เงินอุดหนุนแบบร่วมจ่ายในอัตรา50–80% หรือ สูงสุดไม่เกิน 200,000 บาทต่อรายตามขนาดธุรกิจ ซึ่งการสนับสนุนผู้ประกอบการในครั้งนี้อยู่ภายใต้หมวดการพัฒนาช่องทางการจำหน่ายและการตลาดของโครงการฯ เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ประกอบการนำสินค้าและบริการเข้าสู่ตลาดผ่านงานแสดงสินค้าคุณภาพระดับประเทศ”

ทั้งนี้ สภาอุตสาหกรรมฯ ในฐานะหน่วยงานผู้ให้บริการ (BDSP) ได้มีประสบการณ์ในการสนับสนุนด้านการตลาดและการออกงานแสดงสินค้าให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีมายาวนาน โดยในงาน Friendly Design Expo ปีที่ผ่านมา มีบทบาทสำคัญในการสร้างโอกาสใหม่ให้ธุรกิจไทย ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม (Green Product) อุปกรณ์สำหรับผู้สูงอายุ ผลิตภัณฑ์ฟื้นฟูหรือโซลูชันด้านสุขภาพ และธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการดำเนินธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคมผู้สูงวัยและตลาดสุขภาพที่เติบโตสูงอย่างต่อเนื่อง

นายเอกชัย สุตะวิริยะวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี ซี กรีน เวิลด์จำกัด ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์รถไฟฟ้าและวีลแชร์ไฟฟ้ากล่าวว่า “BC Green World ก่อตั้งขึ้นจากวิสัยทัศน์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์สองเมกะเทรนด์สำคัญของโลก คือ สิ่งแวดล้อมและสังคมผู้สูงอายุเราพัฒนาตั้งแต่จักรยานไฟฟ้า รถไฟฟ้า ไปจนถึงวีลแชร์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ Health Care ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และผู้พิการ โดยยึดหลักพลังงานสะอาดคุณภาพสินค้าและการบริการหลังการขายเป็นหัวใจสำคัญ ดังนั้น การเข้าร่วมโครงการ BDS ของ สสว. ช่วยให้เราลดต้นทุนทางการตลาด และเปิดโอกาสให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการอย่างเราสามารถนำทรัพยากรไปต่อยอดนวัตกรรมและขยายธุรกิจได้”

การสนับสนุนผู้ประกอบการ 30 รายเข้าร่วมงานในปีนี้ จะช่วยให้ SME ได้มีเวทีนำเสนอสินค้าแก่ผู้ซื้อและพันธมิตรทางธุรกิจที่มีศักยภาพ เช่น ผู้แทนบริษัทเอกชน โรงพยาบาล หน่วยงานรัฐ ผู้จัดซื้อด้านสุขภาพ ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงผู้สนใจจากต่างประเทศ นอกจากนี้ การเข้าร่วมงานยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้ทดลองตลาดจริงนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ พร้อมสร้างฐานลูกค้าระยะยาว ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทย

ภก. ชัชวัลย์ ปิยชาติ ผู้ก่อตั้งบริษัท หมอชัช จำกัดผู้นำเข้ารองเท้าแบรนด์ aertex กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจของผมมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพที่แก้ปัญหาได้จริง ตั้งแต่รองเท้าและแผ่นรองสุขภาพเท้าที่ใช้เทคโนโลยีสแกนเท้า 3 มิติไปจนถึงวีลแชร์นวัตกรรมที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้ป่วย ผู้สูงอายุ และผู้ดูแล การออกบูทและให้ความรู้กับผู้บริโภคโดยตรงเป็นหัวใจสำคัญ เพราะทำให้ลูกค้าเข้าใจปัญหาและเลือกโซลูชันที่เหมาะสมกับตนเอง การได้รับการสนับสนุนจากโครงการ BDS ของ สสว. ช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการอย่างเราเข้าถึงเวทีการตลาดที่มีคุณภาพมากขึ้น ส่งผลให้เราสามารถขยายการรับรู้ของแบรนด์ ถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับสังคมได้อย่างยั่งยืน”

นายวรยุทธ กิจกูล ผู้ก่อตั้งบริษัท สยามนิชชินจำกัด เผยว่า “บริษัท สยามนิชชินจำกัด ก่อตั้งขึ้นจากประสบการณ์ตรงของผมที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยเหลือ ทำให้เราเข้าใจความต้องการของผู้พิการและผู้สูงอายุอย่างแท้จริง เราเริ่มจากการนำเข้าอุปกรณ์เฉพาะทาง ก่อนจะขยายสู่รถเข็นวีลแชร์ ซึ่งปัจจุบันเป็นผลิตภัณฑ์หลักของบริษัท โดยเฉพาะวีลแชร์แบรนด์ Miki จากประเทศญี่ปุ่น รุ่นMOC 43 JL ที่มีน้ำหนักเบา พับเก็บง่าย และช่วยให้ผู้ดูแลผู้สูงอายุซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นผู้หญิง สามารถพาผู้ใช้งานออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านได้สะดวกมากขึ้น การได้รับการสนับสนุนจากโครงการ BDS ของ สสว. ช่วยแบ่งเบาภาระต้นทุนการออกบูธและการทำตลาด ทำให้ผู้ประกอบการอย่างเรายังสามารถยืนหยัด และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ต่อเนื่อง ท่ามกลางสภาพเศรษฐกิจและการแข่งขันที่ท้าทายในปัจจุบัน”


ปัจจุบันมีผู้ประกอบการ SME ลงทะเบียนในระบบBDS กว่า 30,000 ราย และยื่นข้อเสนอการพัฒนาและบริการรวมกว่า 4,538 ข้อเสนอ ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการพัฒนาธุรกิจของผู้ประกอบการSME ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในขณะที่ผู้ให้บริการทางธุรกิจ (BDSP) มีกว่า 285 หน่วยงานครอบคลุมทั้งภาครัฐสถาบันเชี่ยวชาญเฉพาะทางและสถาบันการศึกษา และมีบริการบนระบบ BDS แล้วมากกว่า 1,000 บริการ โดยด้านการตลาดและช่องทางการจัดจำหน่ายยังคงเป็นหมวดที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปีงบประมาณ 2567-2568

ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมโครงการและใช้บริการจาก BDSP สามารถลงทะเบียนได้ที่https://bds.sme.go.th/

