อวด ! งบไตรมาส3/66 ILINK กวาดรายได้รวม 5,126.65 ล้านบาท มีกำไรเด่น522.15 ล้านบาท เติบโตเป็นเท่าตัว 44.16% ขานรับช่วงไฮซีซั่น พร้อมดันรายได้ทุกธุรกิจแตะนิวไฮทะลุ7,400 ล้านบาท นับว่าผลการดำเนินงาน 9 เดือนเป็นไปตามเป้าหมายทั้งปี มีรายได้เติบโตเพิ่มขึ้น ทำกำไรสุทธิเซอร์ไพรส์ ตอกย้ำความสำเร็จตามยุทธศาสตร์ที่ตั้งเป้า“จะเติบโตแบบมีคุณภาพ ทั้งรายได้ และกำไรสุทธิ”
บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ILINK สร้างผลงาน 9 เดือน เป็นไปตามเป้าหมายที่แสดงถึงการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน พร้อมกับตอกย้ำการเป็นบริษัทฯ ที่ประกอบธุรกิจด้านเทคโนโลยี ตามอุดมการณ์ที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย ทำรายได้รวมยอดเยี่ยมอยู่ที่ 5,126.65 ล้านบาท ทำกำไรสูงสุด 522.15 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.16 % เทียบเป็นกำไรสุทธิ10.18% ซึ่งเกิดจากการรับรู้รายได้ของการขยายตลาดของธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณและการเร่งส่งมอบงานโครงการเกาะเต่าของธุรกิจวิศวกรรมโครงการ รวมถึงเร่งผลักดันการรับรู้รายได้ของธุรกิจโทรคมนาคม และดาต้า เซ็นเตอร์ ซึ่งดำเนินงานโดย บมจ. อินเตอร์ลิ้งค์เทเลคอม
โดยรายได้ของ ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ (Cabling Distribution Business) ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2566 มีรายได้ตามการวางยุทธศาสตร์ของกลุ่มบริษัทฯ ที่เน้นการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน ส่งผลมีรายได้รวมในไตรมาสนี้ 2,234.96 ล้านบาท ทำกำไร252.19 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น64.55% มีรายได้รวมเติบโต 14.82% สูงขึ้นเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอย่างโดดเด่น จากบริษัทฯ ที่เป็นผู้นำเข้าสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดของประเทศไทย และเป็นผู้นำตลาดของระบบสายสัญญาณ โดยเป็นผู้ชี้นำตลาดของประเทศไทยและอาเซียน รวมถึงเป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ของโลก ที่ประกอบสายสัญญาณของ ILINK สหรัฐอเมริกา และ GERMAN RACK นับเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในตลาด High End ซึ่งมีการขยายตัวอย่างมาก พร้อมกับมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด จากหมวดของสาย LAN และสาย SOLAR ซึ่งได้อานิสงส์จากตลาดที่โตขึ้นของสาย LAN และคู่แข่งขันสาย SOLAR ที่ประสบปัญหา ประกอบกับเมื่อเปรียบเทียบคุณภาพกับราคาแล้ว ผลิตภัณฑ์ LINK American และ GERMAN RACK
สำหรับธุรกิจวิศวกรรมโครงการ (Turnkey Engineering Business) มีรายได้รวม 9 เดือน จากธุรกิจ 955.51 ล้านบาท มีกำไร 70.64 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น169.43% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ที่สามารถส่งมอบงานโครงการสายเคเบิลใต้ทะเลของที่ก่อสร้างของสายจากเกาะพะงันไปยังเกาะเต่า ที่คาดว่าบริษัทฯ จะติดตั้งสายเคเบิลใต้น้ำของโครงการสายเคเบิลใต้น้ำเกาะเต่าที่มีมูลค่างานทั้งหมด 1.78 พันล้านบาท ให้แล้วเสร็จก่อนกำหนดเวลา และปัจจุบันยังคงมีงานโครงการในมือ (Back log) เพียงพอสำหรับปี 2023 และปี 2024 ที่กำลังรอโครงการขนาดเล็กที่ทยอยเซ็นต์สัญญาต่อไปในปีนี้อีก 1 โครงการ และงานโครงการในต้นปี 2025 อีก 1 โครงการขนาดใหญ่
ธุรกิจโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์(Telecom & Data Center Business)โชว์ผลประกอบการ 9 เดือน ปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,936.19 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 199.31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.88% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 186.47 ล้านบาท ทั้งนี้เป็นผลสืบเนื่องจากบริษัทฯ มีการเติบโตในทุกธุรกิจ และความต้องการลูกค้าที่เพิ่มขึ้น สำหรับงบการเงินไตรมาส 3/2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 753 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากไตรมาส 3/2565 ที่มีรายได้ 768 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 55 ล้านบาท โดยในเดือนตุลาคม 2566 บริษัทฯ ได้มีรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์ ถึงรายการเข้าซื้อหุ้นของ บริษัท โกลบอล ลิโธทริปซี่ย์เซอร์วิสเซส จำกัด หรือ Global Lithotripsy Services Company Limited โดยมีสัดส่วนการถือหุ้น 100% เบื้องต้นคาดจะเริ่มรับรู้รายได้ ในไตรมาส 4/2566 เป็นต้นไป
อีกทั้ง บริษัทฯ ได้อยู่ในกระบวนการเตรียมยื่น FILING เพื่อนำบริษัทลูกของลูก ได้แก่ BLUE SOLUTIONS เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (MAI) โดยกำหนด Tentative จะยื่นในวันที่ 22 พ.ย. 2566 นี้ และคาดว่าจะนำ บริษัท BLUE SOLUTIONS เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2024รวมถึงบริษัทฯ ลูก (ITEL) และบริษัทลูกของลูก (BLUE SOLUTIONS) ได้ลงนามในสัญญาโครงการพัฒนาทักษะสร้างความรู้ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศสู่สังคมดิจิทัล ในภารกิจบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึง และบริการเพื่อสังคม กับ กสทช. ได้แก่ ITEL (ภาคใต้) มูลค่า 297.21 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) และ BLUE SOLUTIONS (ภาคอีสานบน) มูลค่า 345.04 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)อีกด้วย