นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของกรมในช่วงครึ่งปีงบประมาณที่ผ่านมา ระหว่างเดือนตุลาคม 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 ซึ่งกรมฯได้ดำเนินกิจกรรมขับเคลื่อนการค้าระหว่างประเทศแล้วกว่า 173 กิจกรรม คาดการณ์มูลค่าการเจรจาการค้าผ่านกิจกรรมส่งเสริมการค้ากว่า 42,557.57 ล้านบาท ทั้งยังพัฒนาส่งเสริมผู้ประกอบการได้ถึง 60,045 ราย โดยได้ดำเนินงานตามนโยบายสำคัญ อาทิ การเปิดประตูโอกาสทางการค้าสู่ตลาดใหม่ที่มีศักยภาพควบคู่ไปกับการรักษาตลาดเดิม ด้วยการสร้างโอกาสใช้กลยุทธ์ตลาดเชิงรุกเพิ่มมูลค่าส่งออก 10 ประเทศยุทธศาสตร์เป้าหมาย
นายภูสิต กล่าวเพิ่มเติมว่า กลยุทธ์การเจาะตลาดจีนรายมณฑลยังได้ขยายการค้าไปยังเมืองรองและระดับมณฑล ด้วยการใช้ประโยชน์จาก MOU ที่ลงนามแล้ว โดยการจัด “Thai – Yunnan Quick Win Business Matching and Networking” และ OBM กับผู้ประกอบการยูนนาน ครอบคลุมสินค้าอาหาร และบริการด้านโลจิสติกส์ (จีน) / OBM สินค้าอาหารทะเลกับบริษัทผู้นำเข้าจากปูซาน สาธารณรัฐเกาหลี /ประสานงานกรมพาณิชย์ มณฑลกานซู่ เพื่อขยายอายุ MOU และเร่งการประสานงานลงนาม MOU เพิ่มเติม 7 ฉบับ (เจ้อเจียง/กว่างซีจ้วง/ซานซี/เฮยหลงเจียง/ฝูเจี้ยน/เหอเป่ย/ซานตง) และ Sinopec รัฐวิสาหกิจรายใหญ่ ผลักดันสินค้าอาหารไทยให้สามารถวางจำหน่ายในร้านค้าปลีกกว่า 20,000 แห่งทั่วจีน รวมถึงยังเป็นเป็นทีมพาณิชย์เชิงรุก บูรณาการกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจไทย-ศรีลังกา ในช่วงที่มีการลงนาม FTA ซึ่งมีผู้ประกอบการไทย เข้าร่วม 21 ราย และคาดการณ์มูลค่าการสั่งซื้อใน 1 ปี ประมาณ 41 ล้านบาท
ทั้งนี้ นายภูสิต ยังได้กล่าวถึงการสร้างโอกาสเพิ่มมูลค่าทางการค้าโดยใช้อินฟลูเอนเซอร์และซอฟต์พาวเวอร์ ด้วยการ Kick Off Soft Power สร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ปรับตัวสู่การค้ายุคใหม่ ผ่านงานสัมมนา “ติดปีกทางการค้าให้ผู้ประกอบการไทยด้วย Soft Power” เพื่อเตรียมความพร้อมให้ผู้ประกอบการ งานสัมมนา Export 5F: Thai Soft Power to the World ทั้ง มวยไทย อาหาร เทศกาล ฟิล์ม และแฟชั่น พร้อมกันนั้นยังได้จับมือซีรีส์วาย และซีรีส์ยูริ ดันสินค้าไทยเจาะตลาดโลก การทำ MOI กับภาคเอกชนไทยผลักดันสินค้าผ่านอินฟลูเอนเซอร์ และซอฟท์พาวเวอร์ซีรี่ส์ รวมทั้งจัดงานมหกรรมส่งเสริมสินค้าและบริการไทยผ่านซีรี่ส์วาย และยูริอีกด้วย
โดยกิจกรรมส่งเสริมตลาดต่างๆ ดำเนินการแล้ว 42 กิจกรรม ผู้ประกอบการไทยได้รับประโยชน์ 294 ราย และสร้างมูลค่าทางการค้ากว่า 6,089.36 ล้านบาท ด้านการสร้างโอกาสเพิ่มช่องทางการค้าทั้งออฟไลน์และออนไลน์ โดยออฟไลน์ มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าทั้งในและต่างประเทศ การจัดงานและเข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั่วโลก มูลค่ารวม 21,547.78 ล้านบาท
งานสำคัญ อาทิ งาน Bangkok Gems and Jewelry Fair ครั้งที่ 69, Gulfood และ ANUGA 2023 ขณะที่ออนไลน์ ได้พัฒนาผู้ประกอบการให้ขยายช่องทางผ่าน e-commerce 3,647 ราย สร้างมูลค่าซื้อขายผ่านเว็บไซต์ Thaitrade.com และเครือข่ายพันธมิตร 588.42 ล้านบาท ผลักดันภาคธุรกิจไทยปรับตัวเข้าสู่การค้าโลกในยุคดิจิทัล และส่งเสริม Cross-border E-Commerce ทั้งนี้ DITP ยังได้ตั้งร้าน TOP Thai บนแพลตฟอร์ม e-Commerce พันธมิตร
ปัจจุบัน มีร้าน TOPTHAI บน 9 แพลตฟอร์ม ของ 10 ประเทศ ล่าสุดคือ Rakuten ญี่ปุ่น นอกจากนี้ จัด Online Business Matching (OBM) 24 ครั้ง สร้างมูลค่า 4,548.65 ล้านบาท รวมถึงการส่งเสริม SMEs Pro-active ให้ผู้ประกอบการเข้าร่วมกิจกรรมในต่างประเทศด้วยตนเอง 82 งาน รวมผู้ประกอบการ 193 ราย มูลค่าสั่งซื้อ 2,233.91 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มประสิทธิภาพกลไกพาณิชย์จังหวัดและทูตพาณิชย์ สร้างเครือข่ายเพื่อร่วมผลักดันสินค้าภูมิภาคสู่สากล เชื่อมโยงผู้ประกอบการในจังหวัดกับผู้นำเข้าในต่างประเทศ และการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกิจแก่ผู้ประกอบกาผ่านบริการ DITP Call Center 1169 รูปแบบต่างๆ และศูนย์บริการการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ (OSEC) รวม 14,760 ราย และการให้บริการของสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ 58 แห่งทั่วโลก
กรมฯ ยังได้เปิดเผยถึงแผนงานและกิจกรรมเด่น ในช่วงครึ่งปีหลัง ระหว่างเดือนมีนาคม – กันยายน 2567 ซึ่งมุ่งเน้นการจัดงานแสดงสินค้านานาชาติในไทย เช่น THAIFEX–HOREC Asia (6-8 มี.ค.) STYLE Bangkok (20-24 มี.ค.) THAIFEX-ANUGA ASIA (28 พ.ค.–1 มิ.ย.) ซึ่งในช่วงการจัดงาน นายภูมิธรรม จะเป็นประธานประชุมมอบนโยบายให้กับทูตพาณิชย์ และประเมินสถานการณ์การส่งออกช่วงครึ่งปีหลังด้วย จากนั้นจะจัดงาน TILOG-LOGISTIX (15-17 ส.ค.) Bangkok E&E และ Bangkok RHVAC (4-7 ก.ย.) และ Bangkok Gems and Jewelry Fair (9-13 ก.ย.)
ส่วนการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในต่างประเทศ เช่น FOODEX Japan โตเกียว ญี่ปุ่น (5-8 มี.ค.) Natural Product Expo West (NPEW) แคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ (12-16 มี.ค.) Hong Kong International Film & TV Market – FILMMART (11 มี.ค.) Seoul Living Design Fair โซล เกาหลีใต้ (28 ก.พ.–3 มี.ค.) International Franchise Expo มะนิลา ฟิลิปปินส์ (12-14 เม.ย.) Milan Design Week มิลาน อิตาลี (15-21 เม.ย.) Salone Del Mobile มิลาน อิตาลี (16-21 เม.ย.) Cannes Film Festival ฝรั่งเศส (18 พ.ค.) INDEX ณ นครดูไบ ยูเออี (4-6 มิ.ย.) Naturally Good Expo ซิดนีย์ ออสเตรเลีย (3-4 มิ.ย.) Next Rise Seoul โซล เกาหลีใต้ (11-15 มิ.ย.) SEOUL FOOD & HOTEL โซล เกาหลีใต้ (11-14 มิ.ย.) Seoul International Book Fair โซล เกาหลีใต้ (26-30 มิ.ย.) Festival International du Film d’Animation d’Annecy ฝรั่งเศส (11-14 มิ.ย.) Taipei Pet Show (5-8 ก.ค.) Fine Food Australia ซิดนีย์ ออสเตรเลีย (2–5 ก.ย.) และ China-ASEAN Expo (CAEXPO) หนานหนิง จีน
พร้อมกันนี้ มีแผนจัดงาน Thailand Week ณ มะนิลา ฟิลิปปินส์ (29 ก.พ.–3 มี.ค.) Thailand Week ณ เจนไน อินเดีย (8-10 มี.ค.) Top Thai Brands ณ เมืองมุมไบ รัฐมหาราษฏระ อินเดีย (22-24 มี.ค.) Mini Thailand Week ณ จ.กว่างนิงห์ เวียดนาม (28-31 มี.ค.) Thailand Week ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ (29 ก.พ.–3 มี.ค.)
“นอกจากผลการดำเนินงาน และแผนการดำเนินการอีก 6 เดือนข้างหน้าแล้ว กรมฯ ยังมีกิจกรรมเนื่องในวันสถาปนากรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศครบรอบ 72 ปี ซึ่งจะบอกเล่าก้าวย่างแห่งความสำเร็จ เหตุการณ์สำคัญ 72 ปี ของกรมฯ ผ่านนิทรรศการต่างๆ รวมถึงกิจกรรมพิเศษด้านช่วยเหลือสังคม การออกร้านค้าสวัสดิการกรมฯ และจัดงานแสดงสินค้าส่งออก (DITP Week) ณ อาคารแสดงสินค้าอีกด้วย จึงอยากเชิญชวนให้ผู้ประกอบการที่สนใจ ได้ใช้ช่องทางต่างๆ ที่กรมฯ ได้สนับสนุนเพื่อสร้างโอกาสทางการค้า รวมถึงพัฒนาศักยภาพด้านการตลาดและการส่งออกไทยต่อไปในอนาคต