กระทรวงสาธารณสุขเดินหน้าให้บริการ “คลินิกผู้สูงอายุ” ครอบคลุมทั่วประเทศ ตามแผนปี 2566 “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” ตั้งเป้าคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ 10 ล้านคน ได้รับบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม ครอบคลุมและทั่วถึง
นางก้อนทอง พู่ไหม เปิดเผยว่า ขณะนี้ตนอายุ 78 ปี อาศัยอยู่กับลูกที่ จ.นนทบุรี มีโรคประจำตัวเป็นความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง ก่อนหน้านี้เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า เจ้าหน้าที่ดูแลให้คำแนะนำและให้บริการเป็นอย่างดี แต่ต่อมาได้เปลี่ยนไปรับบริการที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านวัดแคใน ทำให้ได้รับความสะดวกสบายขึ้น เนื่องจากอยู่ใกล้บ้าน และยังคงได้รับบริการจากเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีเช่นเดิม
“ตอนนี้เดินทางสะดวกขึ้น เพราะใกล้บ้าน เจ้าหน้าที่ให้การต้อนรับ เอาใจใส่และดูแลอย่างดีเหมือนกัน ดีใจที่เขาเห็นความสำคัญเรื่องสุขภาพของคนอายุมากๆ อย่างเรา ใครที่มีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัว อยากแนะนำให้เข้าไปตรวจที่ศูนย์บริการใกล้บ้าน เพราะสะดวกสบาย บริการดีเหมือนโรงพยาบาล” นางก้อนทองกล่าว
ขณะที่ นางวนิดา นวลประเสริฐสุข อายุ 72 ปี อาศัยอยู่ที่ บางกระสอ อ.เมือง จ.นนทบุรี กล่าวว่า ตนมีโรคประจำตัว ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง และไวรัสตับอักเสบซี เข้ารับบริการที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้าปีละครั้งเพื่อติดตามอาการ เจ้าหน้าที่ดูแลให้บริการดี ประทับใจคุณหมอหน้าตายิ้มแย้มและแนะนำดีมาก ช่วงแรกๆ เข้าพบคุณหมอบ่อย เนื่องจากมีอาการป่วยโรคแพ้ภูมิตัวเองคุณหมอแนะนำให้รักษาอาการต่างๆ จนหายป่วยได้ และเคยไปรับบริการคลินิกผู้สูงอายุแถววัดแจ้งศิริสัมพันธ์ ให้บริการการคัดกรองสุขภาพ มีกิจกรรมสำหรับผู้สูงอายุให้ออกกำลังกาย มีเจ้าหน้าที่ อสม. และคุณหมอ ออกไปตามบ้านที่มีคนป่วยติดเตียง ไปให้การรักษา ให้ความช่วยเหลือเบื้องต้น และให้ความรู้ด้านสุขภาพอื่นๆ เช่น การออกกำลังกาย อาหารการกิน และสอบถามปัญหาต่างๆ
“อยากเชิญชวนผู้สูงอายุหรือคนที่มีปัญหาหรือต้องการความช่วยเหลือต่างๆ ด้านสุขภาพ อย่าปล่อยไว้นาน ให้ไปใช้บริการคลินิกผู้สูงอายุใกล้บ้าน เพราะจะเดินทางสะดวก แต่ได้รับการรักษาเหมือนกัน ตัวยาก็คล้ายกัน ไม่ต้องไปแออัดที่โรงพยาบาลซึ่งบางครั้งก็รอนาน” นางวนิดากล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศให้ปี 2566 เป็น “ปีแห่งสุขภาพสูงวัยไทย” มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้รับการดูแลอย่างเป็นระบบและทั่วถึง ได้รับบริการด้านสุขภาพที่จำเป็นอย่างมีคุณภาพและเท่าเทียม โดยให้บริการการคัดกรองสุขภาพ ด้วยระบบ SMART อสม. และ Blue Book Application ผ่านเจ้าหน้าที่ อสม. เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัด ตั้งเป้าการคัดกรองสุขภาพผู้สูงอายุ จำนวน 10 ล้านคน ทั่วประเทศ และจัดตั้งคลินิกผู้สูงอายุในโรงพยาบาล 901 แห่ง ของกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงมอบวัสดุอุปกรณ์ที่จำเป็นให้แก่ผู้สูงอายุ ได้แก่ แว่นสายตา 500,000 ชิ้น ผ้าอ้อมผู้ใหญ่ 13 ล้านชิ้น ฟันเทียม 50,000 ราย และรากฟันเทียมสำหรับผู้สูงอายุที่มีปัญหาในการใส่ฟันเทียม 3,600 ราย
พร้อมกันนี้ยังได้เชิญชวนผู้สูงอายุที่ต้องการเข้ารับบริการคัดกรองสุขภาพ รักษาโรคในคลินิกผู้สูงอายุ และรับวัสดุอุปกรณ์ตามความจำเป็น สามารถติดต่อสอบถาม และใช้บริการได้ที่โรงพยาบาลและหน่วยบริการทุกแห่งของกระทรวงสาธารณสุข ตลอดปี 2566 นี้