‘ไทยศรีวิไลย์’ ไอเดียกระฉูด เตรียมเปิดสถานบริการ sex worker ถูกกฎหมาย หาเงินเข้าประเทศอีก 2 แสนล้านบาท ‘พี่เต้’ ชี้นอกจากหารายได้ ก็ต้องเสริมสร้างสุขภาวะและสร้างศักดิ์ศรีไปพร้อมๆกัน ประกาศเตรียมแก้ไขสัญญาเรือดำน้ำ เพื่อสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจและปกป้องอธิปไตยของประเทศ พร้อมผลักดันให้ขึ้นเดือนข้าราชการ 10 % ทุกปี
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ กล่าวถึงนโยบายในการหารายได้ให้ประเทศเพิ่มเติมว่า ขณะนี้ประชาชนส่วนใหญ่เริ่มเข้าใจถึงนโยบายการหารายได้เข้าประเทศของพรรคไทยศรีวิไลย์ เพื่อนำรายได้เหล่านั้น มาสร้างเป็นสวัสดิการให้กับกลุ่มผู้เปราะบาง อาสาสมัครด้านต่างๆ รวมทั้ง การผดุงเกียรติของทหารผ่านศึก เช่น การเอาเงินที่สกปรกและรั่วไหลจากระบบ มาทำให้เป็นเงินสะอาดที่นำมาพัฒนาประเทศ โดยต้องการให้มีการนำผลประโยชน์มหาศาลที่เคลื่อนไหวในการพนันมาแปรผันเป็นเงินที่ดูแลประชาชนตามหลักของรัฐสวัสดิการ เช่น การเปิดบ่อนกาสิโนหรือเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ ในพื้นที่ที่มีศักยภาพทางเศรษฐกิจดี โดยจะเน้นให้นักท่องเที่ยวมาเล่น ส่วนคนไทยจะมีการจำกัดรายได้และวงเงินในการเล่น ซึ่งจะได้รายรับภาษี 3-4 แสนล้านบาท/ปี และเปิดบ่อน vvip สำหรับนักเล่นมีที่ศักยภาพทางการเงินระดับสูง รับปีละ 3-5 หมื่นราย โดยจะต้องมีวงเงินเล่นต่อครั้งไม่น้อยกว่า 50-100 ล้านบาท จะมีรายรับภาษีไม่น้อยกว่า 1.5-2 ล้านล้านบาท/ปี การ การขุดคลองไทย เพื่อนำเงินและผลประโยชน์ที่มีมหาศาลเฉพาะค่าธรรมเนียมการผ่านคลองไทย จะได้ภาษีค่าผ่านคลองปีละ 1.5-2 แสนล้านบาท และจะสร้างเงินให้ประเทศสูงมากกว่า 1 ล้านล้านบาทต่อปี เป็นต้น ซึ่งถือว่า เป็นนโยบายที่สามารถตอบคำถามสาธารณชนทั่วไปที่มีความห่วงใยว่า นโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์มีการจัดสรรเป็นสวัสดิการนับราวๆ หลายแสนล้านบาทต่อปีมาจากไหนบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ยังมีการคิดค้นนโยบายใหม่ๆ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมและเสริมสร้างรายได้ให้มากขึ้นไปอีก คือ การเปิดสถานบริการ-sex worker ถูกกฎหมาย มีใบประกอบวิชาชีพบริการ ถูกสุขอนามัย เพิ่มรายได้แปลงจากส่วย เป็นภาษี รายรับจะอยู่ที่ 1.5-2 แสนล้านบาท/ปี ซึ่งจะคล้ายๆกับการนำเงินรั่วไหลจากบ่อนการพนัน มาทำเป็นสวัสดิการให้กับคนไทย เพราะปัจจุบัน เป็นที่ทราบกันดีว่า ผู้ที่ให้บริการทางเพศนั้น นอกจากจะมีค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการส่วนตัวแล้ว ยังจะต้องจ่ายส่วยหรือที่เรียกกันทั่วไปว่า ค่าอำนวยความสะดวกในการดำเนินกิจการให้กับผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งตนคาดว่า เป็นเงินนับพันล้านบาท โดยเงินเหล่านี้ ควรจะนำมาสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนทั่วไป มากกว่าจะไปกองให้กับคนไม่กี่คนเท่านั้น รวมทั้ง การเสริมสร้างสุขภาวะและเสริมสร้างสวัสดิการให้กับบรรดา sex worker ทุกคน ให้สามารถอยู่ได้ในสังคมอย่างสมศักดิ์ศรีนั้น ถือเป็นสิ่งที่ควรทำมากกว่าการที่มองพวกเขาด้วยสายตาที่ไม่เป็นมิตรดั่งเช่นในปัจจุบันด้วย
นายมงคลกิตติ์ กล่าวต่อว่า สำหรับนโยบายการเสริมสร้างรายได้ให้กับประเทศมากขึ้นไปอีกนั้นก็คือ การปรับปรุงการซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทย เนื่องจากว่า เรือดำน้ำไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะในการทำสงครามเท่านั้น ยังมีประโยชน์ในการสอดส่องทรัพยากรทางทะเล ทั้งสัตว์น้ำ พืชพันธุ์ธรรมชาติ แหล่งปิโตรเลียมและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเชื่อว่า ในอ่าวไทยยังมีทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ที่จะสามารถใช้ประโยชน์ในการสร้างรายได้ให้กับประเทศนับหลายล้านล้านบาท และเรือดำน้ำถือเป็นเครื่องมือในการปกป้องอธิปไตยของประเทศ แต่ทั้งนี้ ตนจะขอติดตามการจัดซื้อเรือดำน้ำอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของสัญญา เพื่อให้ประเทศไทยได้ประโยชน์จากการใช้งานให้มากที่สุด ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและยุทธศาสตร์ทางทหารและการต่างประเทศ ซึ่งจะการันตีรายได้ให้กับประเทศปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านล้านบาท ก็จะสามารถนำเงินเหล่านี้ไปจัดสวัสดิการมากขึ้น และยังมีแนวคิดที่จะเพิ่มเงินเดือน ข้าราชการ 10% ทุกปี เพราะขณะนี้มีหลายพรรคที่จะเพิ่มค่าแรงให้มากขึ้น แต่ยังติดกลไกที่จะตกลงกันระหว่าง รัฐบาล เจ้าของกิจการเอกชน และลูกจ้าง แต่การเพิ่มเงินเดือน 10% ทุกปีนั้น รัฐบาลในฐานะนายจ้างสามารถทำได้ทันที โดยปกติ รายจ่ายต่อปี ที่เป็นรายจ่ายเงินเดือนข้าราชประจำ-พนักงานราชการ- ลูกจ้างราชการ-ข้าราชการบำนาญ อื่นๆ ร่วมประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท/ปี ถ้ามีการเพิ่มเงินเดือน ปีละ 10% จะมีรายจ่ายเพิ่ม ปีที่ 1 130,000 ล้านบาท ปีที่ 2 143,000 ล้านบาท ปีที่ 3 157,300 ล้านบาท ปีที่ 4 173,030 ลบ รวม 4 ปี ใช้งบประมาณประมาณ 603,330 ล้านบาท ซึ่งเงินที่จะต้องใช้จ่าย ก็นำมาจากนโยบายของพรรคไทยศรีวิไลย์ ที่ยืนยันได้ว่า สามารถหาเงินมาได้ตามนโยบายที่วางไว้ โดยเริ่มจากการที่ประชาชนไว้วางใจให้พรรคไทยศรีวิไลย์ ในการเลือกตั้งในวันที่ 14 พฤษภาคมนี้