Netizen นำเสนอเทคโนโลยีใหม่ S/4HANA Public Cloud Version Peony เพื่อการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจอย่างยั่งยืน (Sustainability Transformation) ตอกย้ำความเชื่อมั่นร่วมกับ Medplast ลูกค้ารายแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านการวางระบบ SAP และพัฒนาซอฟท์แวร์ตอบสนององค์กรธุรกิจ ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีและการให้บริการระบบ Information Technology นำเสนอเทคโนโลยีใหม่จาก SAP Cloud ERP เพื่อการบริหารจัดการทางธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability Business Transformation) โดยลงนามสัญญาร่วมกับ บริษัท เมดพลาส จำกัด ลูกค้ารายแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นายกฤษดา สาธุกิจชัย Founder บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด นายเสรี สาธุกิจชัย ประธานกรรมการบริหาร บริษัทเนทติเซนท์ จำกัด นายวีรกาญ ตันติไพบูลย์ธนะ ประธานกรรมการบริหารการจัดการ บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด นายวิรัตน์ อุปราสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดพลาส จำกัด นายพีระพัฒน์ เอกภูธร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดพลาส จำกัด Mr. Michael Schroeder ประธานฝ่ายปฏิบัติการ เอสเอพี ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SAP South East Asia) และ Mr. Atul Tulli กรรมการผู้จัดการ เอสเอพี ประเทศไทย (SAP Thailand) เข้าร่วมพิธีการลงนามสัญญาโครงการวางระบบ SAP S/4HANA Cloud Version Netizen Peony ซึ่งเป็นระบบการใช้งาน SAP ERP รูปแบบใหม่ที่มีการวางระบบบน Cloud ERP โดยมี เนทติเซนท์ ผู้ซึ่งเป็น Platinum Partner ของ SAP และสมาชิกของ United VARs แต่เพียงเจ้าเดียวในไทย ได้นำโซลูชั่นประมวลผลของ Cloud ERP มาปรับใช้กับธุรกิจ เพื่อให้การจัดการบริหารองค์กรมีประสิทธิภาพ และสามารถขยายการเติบโตภายในบริษัทได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน

ภายในงาน นายวิรัตน์ อุปราสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เมดพลาส จำกัด ร่วมลงนามความร่วมมือในการใช้งาน SAP S/4HANA Cloud Version Netizen Peony กับ นายเสรี สาธุกิจชัย ประธานกรรมการ บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด ผู้ให้บริการด้านการวางระบบ SAP Cloud ERP ณ Netizen Life Center อาคาร T-One ทองหล่อ

การร่วมมือในครั้งนี้นับเป็นก้าวสำคัญครั้งใหญ่ในการพลิกโฉมวงการ SAP ERP หลังจากเนทติเซนท์ได้ร่วมจับมือลงนาม MOU ร่วมกับทาง PTT Digital ในการผลักดันวงการธุรกิจไทยจนเกิดโครงการการนำระบบ  SAP S/4HANA Cloud, Public Edition เข้ามาประยุกต์ใช้ร่วมกับการทำงานจนเกิดโครงการนี้ขึ้น โดย Medplast ได้เข้ามาร่วมเป็น Project Success รายแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นบริษัทแรกที่ได้ก้าวสู่การทรานฟอร์มองค์กรเข้าสู่ดิจิทัลได้อย่างสมบูรณ์

สำหรับการทรานฟอร์มระบบในครั้งนี้ นับเป็นอีกกลยุทธ์ใหม่ของ SAP ในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา โดยรูปแบบการจัดการ ERP จะปรับเข้าสู่การทำงานระหว่างองค์กรผ่านแอปพลิเคชันที่จะช่วยควบคุมการทำงานทั้งหมดให้เป็นไปอย่างราบรื่น SAP S/4HANA Cloud Version Netizen Peony เป็นระบบการวางแผนทรัพยากรองค์กรรุ่นใหม่ที่อยู่ในรูปแบบ Cloud ERP ซึ่งรองรับการเข้าใช้งานได้จากทุกที่ทุกเวลา โดยยังคงความปลอดภัยขั้นสูงสุดแก่ระบบและข้อมูล นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันที่ครอบคลุม ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถบูรณาการระบบการทำงานเพื่อสร้างมาตรฐานภายในองค์กร ทั้งในส่วนของการซื้อ การขาย การผลิต การจัดการซัพพลายเชน และบัญชีการเงิน รวมถึงช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการและประมวลผลข้อมูลได้อย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี In-memory Database และ Machine Learning

ประโยชน์ต่อธุรกิจที่มีการนำ Cloud ERP เข้ามาช่วยในการทำงาน

  • ตอบสนองความต้องการของธุรกิจได้ดีในปัจจุบัน พร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน รองรับการขยายตัวและการเติบโตที่รวดเร็ว
  • ลดการสูญหาย/การรั่วไหลของข้อมูล การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลมีความรัดกุมมากขึ้น โดยมี Cloud เป็นระบบศูนย์กลาง
  • พัฒนารูปแบบการดำเนินงานสู่องค์กรอัจฉริยะ ด้วยการผสานโซลูชันระหว่าง Hybrid Landscapes และ Cloud Solution ที่ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ เชื่อมโยงกันได้แบบ Real Time 

สำหรับเนทติเซนท์ที่ได้เข้าร่วมวางระบบ SAP S/4HANA Cloud Version Netizen Peony ให้กับ Medplast ในครั้งนี้ จะช่วยยกระดับธุรกิจได้มี Smart Factory มีข้อมูลการรายงาน การดำเนินการต่าง ๆ ที่สามารถเชื่อมโยงถึงกัน ซึ่งจะทำให้ทีมผู้บริหารสามารถเข้าถึงและเรียกดูข้อมูลต่าง ๆ ได้แบบ Real Time ที่จะช่วยรองรับธุรกิจให้มีการเติบโตและการขยายตัวต่อไปได้ในอนาคต

นายกฤษดา สาธุกิจชัย Founder บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด ได้กล่าวเสริมว่า “การเปลี่ยนแปลงเพื่อความยั่งยืน (Sustainability Transformation) จำเป็นต้องมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ การมีส่วนร่วมอย่างเข้มแข็งกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพในองค์กร และรูปแบบการลงทุนที่ปรับให้เหมาะกับองค์กรแต่ละแห่ง ดังนั้น องค์กรชั้นนำจำเป็นต้องคิดอย่างรอบด้าน ปรับกลยุทธ์การบริหารจัดการองค์กรทั้งในด้านความเร็ว และปรับขนาดองค์กรให้พร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา นวัตกรรมและเทคโนโลยีมีส่วนสำคัญที่ช่วยให้เกิดองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน (Sustainability)”

นายกฤษดา ยังกล่าวอีกว่า หากองค์กรจะบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ควรยึดตามแนวทางการบริหารจัดการ ดังนี้

  1. สร้างรากฐานสู่ความเป็นเลิศด้านความยั่งยืน กำหนดวิสัยทัศน์ กลยุทธ์ และโครงสร้างองค์กรเพื่อความยั่งยืนอย่างชัดเจน มีการตรวจสอบประสิทธิภาพโดยเทียบกับตัวชี้วัดความยั่งยืน และผสมผสานการพัฒนาอย่างยั่งยืนเข้าสู่การทำธุรกิจ
  2. ใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ที่ยั่งยืน การได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เกิดจากกลยุทธ์การผสานความยั่งยืนและนวัตกรรมดิจิทัลเข้าด้วยกัน
  3. สร้างพันธมิตรที่ทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายด้านความยั่งยืน ผู้บริหารองค์กรไม่เพียงทำงานอย่างใกลิชิดกับส่วนต่าง ๆ ในซัพพลายเชน หากยังต้องพัฒนาความสัมพันธ์กับพันธมิตรที่หลากหลาย ตั้งแต่องค์กรพหุภาคี ไปจนถึงกลุ่มอุตสาหกรรมและผู้บริโภคทางเนทติเซนท์ ในฐานะผู้ให้บริการด้านการวางระบบ SAP Cloud ERP ได้เล็งความสำคัญของการพัฒนาเทคโนโลยี ที่จะช่วยวางระบบการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการเจริญเติบโตทางธุรกิจอย่างยั่งยืน และนำไปสู่ความเป็นอยู่ที่ดีของโลกใบนี้ร่วมกัน (Well-Being and Sustainability Transformation Business) 

เกี่ยวกับ เนทติเซนท์    

เนทติเซนท์ (Netizen) มีประสบการณ์ในด้านการวางระบบและบริการที่เกี่ยวข้องกับ SAP ERP มากกว่า 20 ปี และมี Best Practice ในการวางรากฐานของเทคโนโลยีให้กับบริษัทในหลากหลายอุตสาหกรรมทั้งในไทยและต่างประเทศ การันตีด้วยรางวัลมากมาย และด้วยล่าสุดกับรางวัลในการเป็นผู้นำในด้าน Global Standard Support Package ในการปรับตัวเข้าสู่ SAP Products Cloud ได้รวดเร็ว พร้อมทั้งยังสามารถให้คำแนะนำและเป็นที่ปรึกษาเพื่อยกระดับศักยภาพของลูกค้าระดับองค์กรให้สามารถเติบโตได้ตามกลยุทธ์ที่วางไว้

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *