ภาครัฐ-เอกชน ผนึกกำลังเดินหน้าจัดงาน ดิจิเทค อาเซียน ไทยแลนด์ 2022 สนับสนุนอนาคตของเทคโนโลยีเพื่อปฏิรูประบบดิจิทัลของประเทศไทย

(4 พฤศจิกายน 2565) ตอบรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลอาเซียนเติบโตต่อเนื่อง ภาครัฐ-เอกชน นำโดย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม, กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม, อิมแพ็ค และพันธมิตรธุรกิจ เตรียมจัดงานดิจิเทค อาเซียน ไทยแลนด์ 2022 งานแสดงสินค้าเจรจาธุรกิจด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลแห่งภูมิภาคอาเซียน บนพื้นที่จริงในรอบ 2 ปีหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ดึงผู้ประกอบการเทคโนโลยีและดิจิทัลกว่า 150 แบรนด์ชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศร่วมงานภายใต้ธีม “Connecting You with the Global Tech and Digital Community” พร้อมเปิดเวทีสัมมนาวิชาการในประเด็นที่น่าสนใจมากถึง 80 หัวข้อ ระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2565 ณ อาคาร 7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดมีผู้ร่วมงานมากกว่า 5,000 ราย

ดร.ภาสกร  ประถมบุตร รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ depa กล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์พิเศษในประเด็น “อนาคตของเทคโนโลยีเพื่อปฏิรูประบบดิจิทัลของประเทศไทย” ว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า กลไกการพัฒนาและขับเคลื่อนเมืองด้วย city data platform มีความจำเป็นอย่างมาก เข้ามายกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชนสู่สมาร์ทซิตี้ ทาง depa ได้ให้การสนับสนุนและพัฒนาร่วมกัน ในเมืองที่มีประชากร 10,000 คนขึ้นไป สามารถวางระบบพัฒนาเพื่อให้เกิดความเจริญหรือเข้ามาแก้ไขปัญหา เช่น การจัดการดูแล การจราจรของเมือง การดูแลเรื่องการระบายน้ำ การติดตามความเคลื่อนไหวของประชากร เพื่อควบคุมการระบาดของโรค เป็นต้น ซึ่งปัจจุบันหลายๆ เมืองของไทยได้เริ่มพัฒนาและส่งโครงการมานำเสนอแล้วกว่า 60 โครงการ และได้ผ่านการรับรองแล้วถึง 30 โครงการ ทางหน่วยงานยังคงร่วมพัฒนาระบบต่อเนื่อง แต่อย่าง City Data หรือข้อมูลเมืองจะต้องเป็น good data ด้วยไม่ใช่เพียง Big Data เพื่อให้การพัฒนาเมืองที่มีประสิทธิภาพ ตรวจสอบได้ สร้างความเชื่อมั่น และความยั่งยืน

ในส่วนของเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy ยังคงมีบทบาทสำคัญที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมต่างๆ ของประเทศ การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์ไม่ใช่เพียงเรื่องเทคโนโลยีเท่านั้นจะต้องคำนึงถึงเรื่องความพร้อมของกำลังพล การพัฒนาหรือสร้างทีม โดยเฉพาะการส่งเสริมกลุ่มสตารท์อัพให้ได้พัฒนาต่อยอดธุรกิจ และจำเป็นต้องถ่ายทอดให้คนในสังคมได้รู้เท่าทันเทคโนยีและนำมาใช้ให้เหมาะสมและเกิดประโยชน์สูงสุด รวมถึงต้องให้ความสำคัญกับความจริงที่สามารถตรวจสอบได้ อีกทั้งเรื่องความยั่งยืนทางด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล Cloud Sustainability ซึ่งเป็นแนวทางการใช้บริการคลาวด์เพื่อให้เกิดประโยชน์ด้านความยั่งยืนภายในระบบเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อมและสังคม

จากความสำคัญดังกล่าว depa หนึ่งในหน่วยงานภายใต้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ซึ่งมีบทบาทหน้าที่การส่งเสริมการนำเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมมาใช้ในธุรกิจทุกรูปแบบ และยังสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถเพิ่มมูลค่าให้กับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัลของประเทศไทย ตามแผนพัฒนาดิจิทัล 20 ปี เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ จึงพร้อมให้การสนับสนุนการจัดงานดิจิเทค อาเซียน ไทยแลนด์ 2022 (DigiTech ASEAN Thailand) งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลแห่งอาเซียน ซึ่งงานนี้รวมผู้ประกอบการ เทคโนโลยีดิจิทัลและระบบการจัดการในอุตสาหกรรมต่างๆ มารวมไว้ในที่เดียว ช่วยให้ทุกองค์กรได้มีโอกาสเปิดโลกทัศน์ ได้เรียนรู้ และสัมผัสเทคโนโลยีดิจิทัลล่าสุด พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้จากการสัมมนา ซึ่งเป็นการจัดงานบนพื้นที่จริงอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ต้องเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานเป็นออนไลน์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

นายวรเทพ จักรวาลวิบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายขาย ธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง  บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จํากัด กล่าวว่า การทำงานในยุค Hybrid work place จะปรับเปลี่ยนจาก Work from home เป็น Work from everywhere ดังนั้นจึงให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่นำมาใช้และการสื่อสารที่ง่าย รวมถึงการคำนึงถึงความคุ้มค่าในการเลือกใช้เทคโนโลยี ที่ต้องมีประสิทธิภาพ ความเร็ว ความเชื่อถือได้ และสามารถช่วยลดต้นทุนได้ เป็นต้น สำหรับงาน DigiTech ASEAN Thailand 2022 ถือเป็นงานแสดงเทคโนโลยีดิจิทัลระดับนานาชาติ และเป็นการจัดงานยิ่งใหญ่ส่งท้ายปี 2565

ทางเลอโนโว ได้เตรียมแสดงเทคโนโลยี innovative เทคโนโลยี ทั้งทางด้าน AR และ VR ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมอื่นๆ ได้อีกมากมาย นอกจากนี้ ยังนำระบบนวัตกรรมซูโลชั่นที่เอื้อต่อธุรกิจ ทั้งการจัดการค้าปลีก การช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีการทำงานร่วมกันได้มากขึ้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน และการให้บริการในธุรกิจให้ดีมากขึ้น และรองรับการเติบโตในยุคดิจิทัลข้างหน้านี้

นายโอม ศิวะดิตถ์ ผู้บริหารด้านนโยบายภาครัฐ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ทางไมโครซอฟท์ ยังคงให้การสนับสนุนเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลในหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งที่เป็นองค์กรขนาดเล็ก ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ กลุ่มสตาร์ทอัพ รวมถึงให้การสนับสนุนสถานศึกษา โรงเรียน วิทยาลัย ได้ใช้งานไมโครซอฟท์มาโดยตลอด เพื่อส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้เกิดการกระจายโอกาสทางการศึกษา พัฒนาเศรษฐกิจและความยืดหยุ่นทางการเงิน เพื่อที่จะสร้าง “ความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้” หรือ Tech Intensity ซึ่งเป็นการช่วยเพิ่มศักยภาพของมนุษย์ในการทำงาน

โดย Tech Intensity จะกลายเป็นกลยุทธ์ที่บริษัทฯ แนะนำให้องค์กรและบริษัททั่วโลกหันมาใช้งาน Tech Intensity ประกอบด้วย 3 มิติ คือ ยกระดับการใช้งานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไซเบอร์ซิเคียวริตี้-ความปลอดภัยข้อมูล และการพัฒนาทักษะดิจิทัล โดยผู้ใช้งานควรใช้เครื่องมือ เช่น ระบบการประมวลผล Cloud Computing และหน่วยจัดเก็บข้อมูลรูปแบบออนไลน์ที่ช่วยลดความยุ่งยากในการติดตั้ง ดูแลระบบ และลดต้นทุนในการสร้างระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ซึ่งการใช้งานคลาวด์คอมพิวติ้ง ควรเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานที่ผู้ปฏิบัติงานในหน่วยงานรัฐและหน่วยงานเอกชนทั่วโลกสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับงานของตัวเองได้

นายชาลี คาเนโกะ ประธานกรรมการบริหาร และผู้อำนวยการ บริษัท บิ๊กบีท แบงค็อก จำกัด กล่าวว่า วัตถุประสงค์การเข้าร่วมงาน DigiTech ASEAN Thailand ครั้งนี้ คือ การนำเสนอตัวไคเซน ซึ่งเป็นเทคนิควิธีอันหนึ่งที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการทำงานขององค์กร คำว่า “Kaizen” เป็นศัพท์ภาษาญี่ปุ่น แปลว่า การปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เหมาะที่จะนำมาปรับใช้ส่งเสริมธุรกิจองค์กร หน่วยงาน สตาร์ทอัพ ในไทย และทางบริษัทฯ พร้อมช่วยเชื่อมต่อนำเข้าไปในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเปิดกว้างรองรับผู้ประกอบการไทย นอกจากนี้ ทางทีม อิจิ (ICHI) จะนำโซลูชั่นซอฟแวร์จากทางญี่ปุ่น ที่เรียกว่า SASS ซึ่งมีระบบที่หลากหลาย ทั้งระบบการจัดการงานก่อสร้าง ระบบจัดการศึกษา ระบบการจัดการข้อมูลป้องกันการรั่วไหล ระบบบริการการเงิน ฯลฯ เพื่อเป็นทางเลือกให้ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง ได้เลือกทดลองใช้เทคโนโลยีที่หลากหลายจากผู้ประกอบการญี่ปุ่น เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้อุตสาหกรรมหรือธุรกิจของประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนได้เป็นอย่างดี

นางสาวพีรยาพัณณ์ พงษ์สนาม ผู้จัดการอาวุโสฝ่ายโครงการ บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด กล่าวเสริมว่า Digitech ASEAN Thailand 2022 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 พฤศจิกายน 2565 ที่ อาคาร 7 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ภายใต้ธีม “Connecting You with the Global Tech and Digital Community” โดยปีนี้ยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างดีจาก กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เขตอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ประเทศไทย สมาคมส่งเสริมนวัตกรรมเทคโนโลยีไซเบอร์ สมาคมฟินเทคประเทศไทย สมาคมผู้ใช้ดิจิทัลไทย สมาคมปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย สมาคมผู้ประกอบการปัญญาประดิษฐ์ประเทศไทย Drone Academy Thailand สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) สมาคมผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและคลาวด์ไทย สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ สมาคมหุ่นยนต์ช่วยเหลือแห่งเอเชียแปซิฟิก สมาคมเทคโนโลยีอีเว้นท์ประเทศฮ่องกง หอการค้าไทยสิงคโปร์ และอีกมากมาย

โดยมีบริษัทชั้นนำด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลร่วมจัดแสดงสินค้าบริการกว่า 150 แบรนด์ชั้นนำจากทั้งไทยและต่างประเทศ อาทิ สิงคโปร์ ฮ่องกง ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ มาเลเซีย และไต้หวัน ตัวอย่างเช่น บริษัท จีเอเบิล จํากัด บริษัท เลอโนโว (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท บิ๊กบีท แบงค็อก จำกัด บริษัท ช็อคโก้ คาร์ด เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด Zoho Corporation บริษัท คินโทน เซาท์อีส เอเชีย บริษัท ซีเคียวริตี้ พิทช์ จำกัด คลาวดี เทเลคอม บริษัท ซีเอสไอ (ประเทศไทย) จำกัด Hitachi Asia (Thailand) Co., Ltd. บริษัท อัลทอส คอมพิวติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด 8×8 International EPISODE Limited WooKyoung Information Technology บริษัท เน็ตก้า ซิสเต็ม จำกัด บริษัท อีเอสอาร์ไอ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท ไอโคเน็กซ์ จำกัด และ Jeju Special Self-Governing Province เป็นต้น

นอกจากนี้ ยังมีการสัมมนาวิชาการในหลากหลายประเด็นน่าสนใจรวมทั้งหมดกว่า 80 หัวข้อ โดยความร่วมมือของ Tech Talk Thai และพันธมิตรองค์กรด้านเทคโนโลยี ดิจิทัล จัดเวทีนำเสนอความรู้ทั้งในแง่มุมของแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมและกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจ อาทิ หัวข้อ ก้าวสู่โลกอนาคตของการทำงานแบบไฮบริด ด้วย Zoho  Location Intelligence: ก้าวล้ำไปกับเทคโนโลยีแห่งการเปลี่ยนแปลง, บทบาทของปัญญาประดิษฐ์ในโรงงานอัจฉริยะ: บทเรียนและความท้าทาย, แนวทางความปลอดภัยทางไซเบอร์โดย DevSecOps พลิกโฉมธุรกิจของคุณไปข้างหน้าด้วยระบบดิจิทัล และอีกมากมาย DigiTech ถือเป็นงานเดียวที่รวมการนำเสนอโซลูชั่นล่าสุดมาไว้ในที่เดียวกัน ได้แก่ ซอฟต์แวร์เพื่อธุรกิจ, ปัญญาประดิษฐ์, ความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์, อีคอมเมิร์ซและการตลาดดิจิทัล,  ดาต้าและคลาวด์, สมาร์ทโซลูชั่นส์และไอโอที รวมไปถึงเทคโนโลยี 5G และเครือข่าย ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจและการเติบโตของธุรกิจดิจิทัลในภูมิภาคอาเซียน คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานรวมมากกว่า 5,000 ราย

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ ฟรี โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ https://bit.ly/3sLervF หรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมผ่านเว็บไซต์ http://www.digitechasean.comหรือเฟซบุ๊ก http://www.facebook.com/digitechasean

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *