• ผลประกอบการแข็งแกร่งด้วยอัตราการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 1 ถนนบางนา-ตราด กม.23 เฉลี่ย 90%
• ตั้งเป้าพัฒนาพื้นที่เช่าแตะ 1,000,000 ตารางเมตร ภายใน 2567 ทุ่มงบลงทุนปีละกว่า 1,500 ล้านบาท
• พร้อมปักหมุดเปิดตัวโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน 2 ถนนเทพารักษ์ และ บางกอกฟรีเทรดโซน 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 ครอบคลุมพื้นที่เช่า 2 โครงการ รวมกว่า 140,000 ตารางเมตร
กรุงเทพฯ, 7 กรกฎาคม 2565 – พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ในเครือ บมจ.มั่นคงเคหะการ เปิดกลยุทธ์ ‘มากกว่าพื้นที่’ (More Than Just Space) ชี้แนวโน้มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมยังโตต่อ ด้วยปัจจัยเชิงบวกจาก ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ธุรกิจโลจิสติกส์ ตลอดจนธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า ภายใต้โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน (Bangkok Free Trade Zone : BFTZ) รองรับดีมานด์ของลูกค้าทุกขนาด โดยรุกขยายพื้นที่บน 3 ทำเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม ได้แก่ บางพลี วังน้อย และ บางปะกง พร้อมวางแผนดันอาคารรูปแบบสร้างตามความต้องการ หรือ Built-to-Suit เต็มสูบ หนุนการเช่าระยะยาว สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
นางสาวรัชนี มหัตเดชกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (“บริษัทฯ”) ในเครือบริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาและบริหาร ‘โครงการบางกอกฟรีเทรดโซน’ เผยว่า “การเปิดกลยุทธ์ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญ ของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ในการตอกย้ำความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาพื้นที่ รวมถึงบริหารจัดการโรงงานและคลังสินค้า กลยุทธ์ ‘มากกว่าพื้นที่’ (More Than Just Space) สะท้อนถึงความตั้งใจส่งมอบคุณค่า ซึ่งสามารถตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจที่ล้วนแตกต่าง ประกอบกับจุดแข็งของเราในหลายด้าน อาทิ ทำเลที่ตั้งโครงการบริเวณถนนบางนา-ตราด กม.23 ครอบคลุมทั้งเขตประกอบการอุตสาหกรรมทั่วไป (General Zone) และเขตปลอดอากร (Free Zone) บนทำเลยุทธศาสตร์บางพลี จัดเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการทางด้านโลจิสติกส์ค่อนข้างสูง นอกจากนี้ การกระจายตัวในส่วนอุตสาหกรรมของผู้เช่าที่มีความหลากหลาย ทำให้ในช่วงโควิดที่ผ่านมา เรายังสามารถยืนหยัดเติบโตท่ามกลางวิกฤต โดยเฉพาะผู้เช่าเดิมที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจแปรรูปอาหาร มีแนวโน้มต่อสัญญาระยะยาวมากขึ้น”
เปิดเกมรุกกลยุทธ์ ‘มากกว่าพื้นที่…More Than Just Space’
ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้นของอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม เนื่องมาจากเทรนด์การเติบโตของธุรกิจ
อีคอมเมิร์ซ ข้อมูลจาก ETDA คาดการณ์ว่ามูลค่าอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยในปี 2564 เติบโตอยู่ที่ 4.01 ล้านล้านบาท ปัจจัยดังกล่าวนับเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้ธุรกิจคลังสินค้าและโรงงานให้เช่า มีการปรับรูปแบบเพิ่มความหลากหลายของการให้บริการ รวมถึงเสริมระบบเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการมากขึ้น
การขับเคลื่อนกลยุทธ์ ‘มากกว่าพื้นที่…More Than Just Space’ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ยึดเอาความยืดหยุ่นในการดำเนินงานเป็นหัวใจหลัก เพราะเสียงของลูกค้าคือ สิ่งสำคัญที่สุด ในฐานะเจ้าของโครงการที่ดูแลพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและอาคารโดยตรง ทำให้การใช้งานพื้นที่ของ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ มีความยืดหยุ่นได้มากกว่า ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีและรวดเร็ว นอกเหนือจากอาคารมาตรฐานทั่วไป จึงได้เพิ่มทางเลือกที่มากกว่าด้วยอาคารแบบ Ready Built-to-Suit ปรับอาคาร Ready Built ให้มีฟังก์ชั่นตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างยืดหยุ่น และ พัฒนาอาคาร Built-to-Suit สำหรับรองรับธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต เช่น คลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิ (Temperature Control Warehouse), คลังสินค้าวัตถุอันตราย (DG Warehouse) เป็นต้น
ขณะเดียวกัน การนำเอาแนวคิด Partnership Model มาปรับใช้ เป็นโมเดลที่ช่วยให้ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ ผลักดันด้านความยั่งยืนในทุกมิติ ตั้งแต่ลูกค้า พาร์ทเนอร์ไปจนถึงชุมชนโดยรอบโครงการ ผ่านการก่อสร้างและออกแบบอาคารภายใต้มาตรฐาน EIA หรือ Environmental Impact Assessment คำนึงถึงปัจจัยด้านกายภาพ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ตลอดจนคุณภาพชีวิตของผู้ใช้งานอาคารเป็นสำคัญ
เป้าหมายพัฒนาพื้นที่เช่าแตะ 1,000,000 ตารางเมตร ภายใน 3 ปี
ปัจจุบัน พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ มีพื้นที่ให้เช่าภายใต้การบริหารจัดการทั้งสิ้น 520,000 ตารางเมตร และมีเป้าหมายที่จะพัฒนาต่อเนื่องไปถึง 1,000,000 ตารางเมตร ใน 6 โครงการ ซึ่งตั้งอยู่บน 3 ทำเลศักยภาพของภาคอุตสาหกรรมและโล
จิสติกส์ไทย ไม่ว่าจะเป็น ย่านบางพลี ตอบโจทย์ธุรกิจโลจิกติกส์ โรงงานขนาดใหญ่ พื้นที่วังน้อย เขตเศรษฐกิจอุตสาหกรรมที่สำคัญของภาคกลาง เชื่อมต่อเส้นทางการเดินทางไปยังภาคเหนือและภาคอีสาน รวมถึง พื้นที่บางปะกง ที่ตั้งอยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งนี้ การพัฒนาพื้นที่เช่าสู่ 1,000,0000 ตารางเมตร จะใช้งบลงทุนปีละ 1,500 ล้านบาท ในส่วนของภาพรวมอัตราการเช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าในโครงการ BFTZ 1 ถนนบางนา-ตราด กม.23 ยังคงสดใส เฉลี่ยอยู่ที่ 90%
“เราจะไม่หยุดพัฒนาและยังคงเดินหน้าการขยายพื้นที่ตามยุทธศาสตร์อุตสาหกรรมของไทย ด้วยประสบการณ์ของทีมงานมืออาชีพ พร้อมส่งมอบคุณภาพอาคาร ควบคุมสภาพแวดล้อมในโครงการอย่างรอบด้าน ผนวกกับบริการครบวงจรแบบ One Stop Service และให้ความยืดหยุ่นในการบริการ ทำให้เรามั่นใจว่าจะสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและเพิ่มเติมลูกค้ากลุ่มใหม่ให้เข้ามาเช่าพื้นที่ในโครงการได้ ซึ่งอุตสาหกรรมหลักที่เช่าพื้นที่ในโครงการของเราปัจจุบัน ได้แก่ ธุรกิจโลจิสติกส์, อิเล็กทรอนิกส์, อาหาร, ชิ้นส่วนรถยนต์, รีไซเคิล ขณะที่ ปัจจัยเรื่องโครงสร้างพื้นฐานและฝีมือแรงงานไทย ยังช่วยดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาตั้งฐานการผลิตและดำเนินธุรกิจมากขึ้นอีกด้วย” นางสาวรัชนี กล่าวเสริม
ขยายอาณาจักรบน 3 ทำเลยุทธศาสตร์อุตสาหกรรม
สำหรับการเปิดตัวโครงการตามโรดแมป จะเริ่มจากโครงการ BFTZ 2 ถนนเทพารักษ์ และ BFTZ 3 ถนนบางนา-ตราด กม.19 ทั้ง 2 โครงการ เมื่อพัฒนาเสร็จสิ้นทั้งโครงการจะมีพื้นที่เช่ารวมกว่า 140,000 ตารางเมตร จากนั้น จะมีการเปิดตัวโครงการ BFTZ 5 วังน้อย ภายใต้การร่วมทุนกับ บมจ.เอฟเอ็นเอส โฮลดิ้งส์ พื้นที่ให้เช่า 120,000 ตารางเมตร ในเดือนกรกฎาคม 2565 และมีแผนจะเตรียมส่งมอบพื้นที่อาคารคลังสินค้า Built-to-Suit เฟสแรกให้แก่ ลูกค้า “สยามแม็คโคร” ภายในไตรมาส 1 ของปี 2566 และ เปิดตัวโครงการ BFTZ 4 บางปะกง ภายใต้การร่วมทุนกับ บมจ.แสนสิริ ในไตรมาส 1 ของปี 2566 ใช้งบลงทุน 4 โครงการ (BFTZ 2-5) รวมทั้งสิ้นกว่า 13,700 ล้านบาท
ช่วงสิ้นปีนี้ พรอสเพค ดีเวลลอปเมนท์ วางแผนขายทรัพย์สินส่วนหนึ่งในโครงการ BFTZ 2 และ 3 มูลค่า 1,800 ล้านบาท เข้าไปในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ พรอสเพค โลจิสติกส์และอินดัสเทรียล (PROSPECT REIT) และจะทำการขายทรัพย์สินคุณภาพเข้ากองทรัสต์อย่างต่อเนื่องหลังจากนี้ เพื่อสร้างรายได้สม่ำเสมอในระยะยาวจากการบริหารโครงการ ปูทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืน