มูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) ผนึกพันธมิตร จัดกิจกรรม “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” รณรงค์ช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2567 บนถนนข้าวสาร

มูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ ร่วมกับ กรุงเทพมหานคร สน.ชนะสงคราม สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร บจก. ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) และ แกร็บ ประเทศไทย พร้อมเครือข่ายผู้ให้บริการรถสาธารณะ จัดกิจกรรม “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” รณรงค์สร้างความตระหนักเพื่อลดอุบัติเหตุช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2567 ณ บริเวณหน้าอาคารโรงแรมบัดดี้ ลอดจ์ ถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ

นางสาวชัชฎา จันทรางศุ ประธานมูลนิธิแก้ไขปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ (มปอ.) หรือ Thai Foundation for Responsible Drinking (TFRD) กล่าวว่า มูลนิธิฯ ก่อตั้งมากว่า 9 ปี มีเป้าหมายในการช่วยป้องกันและลดปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในทางที่ผิด การจัดกิจกรรม “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” รณรงค์สร้างความตระหนักรู้และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อลดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2567 นอกจากจะสอดคล้องกับเป้าหมายหลักของมูลนิธิฯ แล้วยังสอดรับกับนโยบายและมาตรการของภาครัฐในปัจจุบัน ที่ต้องการให้ประชาชนทุกคนสามารถเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่อย่างมีความสุข และมีความปลอดภัยควบคู่กันไปด้วย

“มปอ. ยืนหยัดในการช่วยป้องกันและลดปัญหาการดื่มแอลกอฮอล์ในทางที่ผิดเชิงบูรณาการอย่างยั่งยืน ดังนั้นในวันนี้เราจึงได้ร่วมมือกับ กรุงเทพมหานคร สน.ชนะสงคราม สมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องกับการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมทั้งผู้ให้บริการรถสาธารณะ เพื่อแสดงออกถึงจุดยืนที่สนับสนุนการเฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่ปลอดภัย สร้างรายได้แก่ผู้ประกอบการทุกมิติที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิฯ คาดหวังอยากให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการป้องกันมากกว่าการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ดังนั้น ผู้บริโภคที่เลือกเฉลิมฉลองด้วยการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ว่าจะดื่มมากหรือดื่มน้อย ก็ไม่ควรขับขี่เด็ดขาด ซึ่งก็จะสามารถเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดอุบัติเหตุในช่วง 7 วันอันตรายในเทศกาลปีใหม่ได้ ซึ่งมูลนิธิฯ เห็นว่าการขับขี่โดยไร้แอลกอฮอล์ไม่ควรรณรงค์เพียงแค่ช่วงเทศกาลเท่านั้น แต่หมายถึงในทุกช่วงเวลา ถ้าดื่มแล้วไม่ขับก็จะช่วยลดปัญหาในสังคมที่จะตามมาอีกมากมาย” นางสาวชัชฎากล่าวย้ำ

ด้าน นายสง่า เรืองวัฒนกุล นายกสมาคมผู้ประกอบธุรกิจถนนข้าวสาร เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลได้มีนโนบายส่งเสริมการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ อนุญาตให้ขยายเวลาให้สถานบริการใน 5 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพมหานคร จังหวัดภูเก็ต จังหวัดชลบุรี จังหวัดเชียงใหม่ และอำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถเปิดให้บริการได้ถึงเวลา 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น รวมถึงสถานบริการที่อยู่ในสถานที่ตั้งโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรมทั่วประเทศ ก็สามารถเปิดบริการได้ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้นได้เช่นกัน เสียงตอบรับในเชิงบวกจากผู้ประกอบการก็เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพราะเท่ากับเป็นการปลดล็อก สนับสนุนให้เกิดโอกาสในการสร้างรายได้ หลังจากที่ประสบปัญหากันมายาวนานกว่า 3 ปี นับแต่ช่วงโควิด-19 ระบาด

“สถานบริการทุกแห่งต่างเตรียมพร้อมต่อมาตรการที่ประกาศออกมาเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ทั้งการคำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการ การเตรียมพร้อมบุคลากรให้เคร่งครัดตามกฎระเบียบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ และบุคคลที่มีอาการมึนเมาสุราจนครองสติไม่ได้ นอกจากนี้ยังได้รับการสนับสนุนจาก แกร็บ ประเทศไทย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน Grab มอบส่วนลด 25% สูงสุด 200 บาทต่อครั้ง ด้วยโค้ด KHAOSAN25 ให้แก่ผู้ใช้บริการ GrabDriveYourCar GrabCar Premium และ GrabSUV ที่เรียกรถไป-กลับจากบริเวณสถานบริการถนนข้าวสาร เพื่อสนับสนุนกิจกรรม “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” ด้วย” นายสง่ากล่าว

ขณะที่ ดร.เก่งการ เหล่าวิโรจนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายองค์กรสัมพันธ์ บริษัท ดิอาจิโอ โมเอ็ท เฮนเนสซี่ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรม ผมรู้สึกขอบคุณและยินดีอย่างยิ่งที่รัฐบาลมองเห็นความสำคัญของธุรกิจการท่องเที่ยวกลางคืน ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการมีช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น อีกทั้งช่วยสร้างรายได้ให้แก่ประเทศเป็นอันดับต้นๆ และในขณะเดียวกัน บริษัทฯ เองก็ไม่ละเลยที่จะสนับสนุนให้เกิดความปลอดภัยต่อผู้บริโภคเช่นกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่บริษัทฯ ทำมาโดยตลอดภายใต้โครงการ Society 2030: Spirit of Progress โดยบริษัทฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนกิจกรรมร่วมกับภาคีเครือข่าย ผ่านการบริจาคเครื่องเป่าวัดระดับแอลกอฮอล์ให้กับสถานประกอบการที่เข้าร่วมรณรงค์แคมเปญ “ฉลองมั่นใจ ดื่มปลอดภัย ไม่ขับเอง” ในช่วง 7 วันอันตรายเทศกาลปีใหม่ 2567 ในครั้งนี้

“เราอยากเห็นการเฉลิมฉลองอย่างปลอดภัยและรับผิดชอบของนักท่องเที่ยว จึงสนับสนุนกิจกรรมนี้ เชื่อว่าคงไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์ที่นำมาซึ่งความสูญเสีย ดังนั้นการร่วมมือกันจากทุกภาคส่วนเพื่อป้องกัน แก้ไข และปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด จึงเป็นสิ่งสำคัญและสร้างการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว ถ้าทุกภาคส่วนร่วมมือกัน ทั้งผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เราก็จะก้าวสู่ปีใหม่ไปด้วยกันอย่างมีความสุขและปลอดภัย” ผู้บริหารบริษัท ดิอาจิโอฯ กล่าวย้ำ

ทั้งนี้ การขยายเวลาเปิดสถานบริการได้ถึงเวลา 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น สถานบันเทิงจะต้องดำเนินตามมาตรการให้ครบถ้วน ได้แก่ สถานบริการจะต้องตรวจวัดแอลกอฮอล์ทางลมหายใจของผู้มาใช้บริการ ก่อนอนุญาตให้ขับขี่ออกจากสถานบริการ หากวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดทางลมหายใจแล้วพบว่า มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ สถานบริการจะต้องจัดหาที่พักคอย และอำนวยความสะดวกเพื่อรอให้ระดับแอลกอฮอล์ในเลือดทางลมหายใจลดลงต่ำกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จึงอนุญาตให้ขับขี่ออกจากสถานบริการ โดยกรณีที่ผู้ขับขี่ยานพาหนะมีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดสูงกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ไม่ยินยอมพักคอย ให้สถานบริการประสานให้เพื่อน/ญาติ ของผู้ใช้บริการขับขี่แทน หรือจัดบริการยานพาหนะ เพื่อส่งลูกค้าเดินทางกลับโดยคิดค่าบริการจากผู้ใช้บริการ

You May Also Like

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *