งาน Startup x Innovation Thailand Expo 2023 ปีนี้กลับมาจัดเต็มในรูปแบบอีเว้นท์เต็มรูปแบบ ซึ่งเป็น Tech Conference ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่รวมหลายภาคส่วนเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งกูรูด้านนวัตกรรมจากทั่วโลก ผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรม นักลงทุน ภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาสังคม
ไฮไลท์หลักของงาน คือ Forum เวทีประชุมสัมมนา เพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับการสร้างความร่วมมือด้านนวัตกรรมระหว่างหน่วยงานทุกภาคส่วนในระบบนิเวศนวัตกรรมและการลงทุนในธุรกิจนวัตกรรม โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากทั้งในไทยและต่างประเทศ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และถ่ายทอดประสบการณ์ในเวทีต่างๆ
สำหรับงานในวันแรก มีการปาฐกถาพิเศษ โดย Mr.Siim Sikkut, Former Government CIO ของประเทศเอสโตเนีย ประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้าน Digital Living ในหัวข้อ “Digital Innovation in Public Sector – What made Estonia becoming a leader in Digital Living” ซึ่งมีหลายประเด็นที่น่าสนใจ คือ
Tech is just a tool ภาครัฐต้องใช้ ‘เทคโนโลยี’ ให้เป็นเครื่องมือที่ง่ายที่สุดที่ประชาชนจะนึกถึง
สร้างประสบการณ์ในการจัดการเรื่องต่างๆ ที่มีความซับซ้อนของชีวิตให้ง่ายขึ้นผ่านการใช้ดิจิทัลแพลตฟอร์ม ยกระดับทุกหน่วยงานด้วยการมองหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาบริการประชาชนอยู่เสมอ เพื่อให้ทุกคนคุ้นชินกับโลกดิจิทัล
Ease of Doing Business สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อในการทำธุรกิจผ่านโลกดิจิทัล ให้ ‘ง่ายที่สุดและเร็วที่สุด’ โดยเฉพาะสตาร์ทอัพและ SME จากประเทศต่างๆ ที่มีไอเดียน่าสนใจและต้องการมาเปิดธุรกิจ เอสโตเนียพร้อมจะอ้าแขนต้อนรับด้วยความยินดี และคอยอำนวยความสะดวกให้ทุกอย่าง สามารถจดทะเบียนเปิดบริษัทได้ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ส่งเอกสารทั้งหมดผ่านทางออนไลน์ได้เลย ยังให้สิทธิประโยชน์อีกมากมาย ทั้งฟรีภาษี ฟรีที่พำนัก และฟรีสิทธิพลเมืองของเอสโตเนีย
ยังมีองค์ประกอบที่สำคัญอีก 5 อย่าง ที่สร้างการเติบโตอย่างแข็งแรงให้กับ Digital Living
1. Platform give boost – เชื่อมต่อให้ข้อมูลทุกอย่างถูกใช้งานอยู่บนแพลตฟอร์ม ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแรงจากบิ๊กดาต้าของผู้ใช้งาน และนำไปต่อยอดเป็นโครงการบริการประชาชนใหม่ๆได้อีกมากมาย เช่น ดิจิทัลไอดี
2. Key principles setting & keeping focus – ต้องวางแผนในการนำข้อมูลไปใช้ก่อน เพื่อสร้างความชัดเจนว่าข้อมูลที่ประชาชนให้มาและถูกรันอยู่บนแพลตฟอร์มนั้น เอาไปใช้อะไร ที่ส่วนไหน และต้องใข้เพื่อต่อยอดในการบริการด้านใด
3. Risks can be managed – ภาครัฐต้องพร้อมบริหารจัดการความเสี่ยงที่จะปกป้องข้อมูลของประชาชนเอาไว้ เพื่อรักษาสิทธิ์ให้ประชาชน และเมื่อประชาชนสบายใจก็จะเป็นการสนับสนุนให้ยิ่งหันมาใช้ดิจิทัลในวิถีชีวิตมากยิ่งขึ้น
4. Constant Experimentation – ต้องกล้าใช้ดิจิทัล เพื่อสร้างประสบการณ์ให้ประชาชนคุ้นเคย โดยที่อย่ากังวลเรื่องงบประมาณที่จะลองผิดลองถูกบ้าง เพราะหัวใจสำคัญนั้นคือ ประชาชนต้องได้เรียนรู้ที่จะใช้เทคโนโลยีในวิถีชีวิตประจำวันอย่างต่อเนื่อง
5. Digigov = Rethinking how government works + managing the change – คิดถึงงานที่ภาครัฐต้องบริการประชาชนและการผสานงานนั้นให้เข้ากับแพลตฟอร์ม เพื่อพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนบริการนั้นให้เป็นดิจิทัลอยู่เสมอ และถ้ายิ่งสามารถใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ได้ด้วยแล้ว การสร้าง Digigov จะยิ่งมีประสิทธิภาพสูงสุด
นี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งในงานเท่านั้น ซึ่งงาน SITE2023 จัดขึ้น จนถึงวันที่ 24 มิถุนายนนี้ ณ ห้องบอลรูม 1-4 ชั้น 1 ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์