บริษัทเยเนอรัล ฮอสปิตัล โปรดัคส์ จำกัด (มหาชน)หรือ GHP เป็นบริษัทผลิตน้ำเกลือปราศจากเชื้อรายแรกของประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2512 ซึ่งในปีนี้มีวาระครบรอบ 55 ปี จึงมีแผนขยายฐานธุรกิจจากในโรงพยาบาลสู่ผู้บริโภคทั่วประเทศไทย วันที่17 สิงหาคม 2567 นพ.ธานินทร์ สีวราภรณ์สกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท บริษัท เยเนอรัล ฮอสปิตัลโปรดัคส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากการศึกษาข้อมูลพบว่าปัจจุบันคนไทยมีปัญหาสุขภาพอย่างอาการภูมิแพ้มากขึ้น เฉพาะในกรุงเทพมหานครพบว่าในเด็กอายุ 6-7 ปี มีอัตราของโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ถึงร้อยละ 15 และในเด็กอายุ 13-14 ปี มีอัตราถึงร้อยละ 17.5 จึงเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองควรให้ความสำคัญในการดูแลสุขภาพของลูกอย่างใกล้ชิด และการล้างจมูกด้วยน้ำเกลือที่มีคุณภาพก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะช่วยบรรเทาอาการภูมิแพ้ได้เป็นอย่างดี ในส่วนของบริษัท GHP เองที่มีความเชี่ยวชาญในการผลิตน้ำเกลือปราศจากเชื้อมานานถึง 55 ปี โดยมีการจำหน่ายเข้าโรงพยาบาลมาโดยตลอด ซึ่งทางบริษัทเล็งเห็นว่าหากสามารถนำน้ำเกลือของ GHP มาช่วยดูแลสุขภาพของคนไทยโดยทั่วไปนอกโรงพยาบาลได้ก็น่าจะเป็นการดี จึงได้ทำแผนการตลาดขยายฐานลูกค้าจากโรงพยาบาลมาสู่ร้านขายยา และประชาชนทั่วไปซื้อหากันได้ง่ายขึ้น สินค้าสำคัญที่บริษัท GHP อยากให้ประชาชนชาวไทยได้ใช้ดูแลสุขภาพคือ น้ำเกลือปราศจากเชื้อที่ใช้เกลือที่ดีที่สุดจากประเทศนิวซีแลนด์ ได้รับเครื่องหมายฮาลาลที่พี่น้องมุสลิมสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัย และขวดล้างจมูก GHP แบบปุ่มกดอัตโนมัติเจ้าแรกของประเทศไทยที่มีการใช้วัสดุเกรดคุณภาพทางการแพทย์ นพ.ธานินทร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า แบรนด์ GHP ยังคงให้ความสำคัญกับการสื่อสารและภาพลักษณ์ของแบรนด์ผ่าน Brand Ambassador ที่จะสื่อถึงความอบอุ่น ความห่วงใย ที่บริษัท GHP อยู่ดูแลสุขภาพคนไทยมาตลอด 55 ปี เพื่อสร้างกระแสและการเชื่อมต่อกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่เป็นกลุ่มผู้ปกครองซึ่งเป็นคนในยุค 90 ตอนปลายถึงยุค 2000 ตอนต้น ที่เป็นกลุ่มรับสื่อการฟังเพลงจากนักร้องที่ตนชื่นชอบในยุคนั้นและยังคงมีผลงานต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งยังมีแคแร็กเตอร์ที่เข้ากับแบรนด์ GHP ได้อย่างชัดเจนจึงได้ทำการเฟ้นหา Brand Ambassador ที่เหมาะสมและตอบโจทย์กับแบรนด์และสินค้าของ GHP มากที่สุด จนในที่สุดจึงได้คุณตู่ ภพธร สุนทรญาณกิจ ที่มีบุคลิกและคุณสมบัติที่ตรงตามที่บริษัทต้องการ
Author: admin
กลุ่มบริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ฯ ประกาศผลการดำเนินงานครึ่งแรกของปี 2567 กำไร 379.92 ล้านบาท
ILINK เป็นปลื้ม ! กอบโกยรายได้ 6 เดือนแรกรวม 3,318.66 ล้านบาท ยิ้มรับกำไร 379.92ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19.86% ทำผลงานหนุนภาพรวมครึ่งปีแรกสดใส เป็นผลจากศักยภาพในการขับเคลื่อนทุกธุรกิจจากความเชี่ยวชาญ โดยครึ่งปีหลัง ปักธงชัด ผลักดันเทคโนโลยีนวัตกรรมใหม่ให้ก้าวทันยุคสมัย ชูรักษาอัตรากำไรขั้นต้นให้โตแกร่ง เพื่อทำรายได้ และกำไรทั้งปีในครึ่งปีหลังอย่างมีคุณภาพ โตตามแบบแผนที่ตั้งไว้ พร้อมทยอยรับรู้รายได้เพิ่มBacklog ในมือล้น จ่อประมูล เซ็นต์สัญญางานเพียบ เตรียมยิ้มรับตัวเลขสู่ความสำเร็จที่ยั่งยืนตลอดทั้งปีตามที่คาดการณ์ ILINK หรือ บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสายสัญญาณที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และผู้นำเข้า และค้าส่งอุปกรณ์เครือข่ายส่งสัญญาณ โดยนับเป็นความความมุ่งมั่นกว่า 38 ปี ของผู้ก่อตั้งที่จะนำเทคโนโลยีมาพัฒนาประเทศไทย โดยกลุ่ม ILINK ได้รับการจัดระเบียบออกเป็น 3 ส่วนธุรกิจหลัก ซึ่งแต่ละส่วนสอดคล้องกับแนวโน้มในปัจจุบันในด้านเทคโนโลยี และโครงสร้างพื้นฐาน เหล่านี้ คือ 1. ธุรกิจจัดจำหน่ายสายสัญญาณ: โดยเป็นผู้นำเข้า และขายส่งสายสัญญาณซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของ AI และ ICT 2. ธุรกิจวิศวกรรมโครงการ: โดยเป็นผู้รับเหมาโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้า ผ่านโครงการวิศวกรรมแบบครบวงจร 3. ธุรกิจโทรคมนาคมและดาต้าเซ็นเตอร์: โดยเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม และเป็นผู้ให้บริการศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ สำหรับในไตรมาส2/67 นี้ ฟอร์มดี ทำรายได้รวมครึ่งแรกของปี 67 อยู่ที่ 3,318.66 ล้านบาท
FINDING UNICORN ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ พร้อมแสดงพลังแห่งของเล่นจากจีนในประเทศไทย
ในกระแสโลกาภิวัตน์ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างประเทศกำลังขยายตัวอย่างกว้างขวาง วัฒนธรรมของเล่นจากจีนได้รับการยอมรับอย่างโดดเด่นในเวทีระดับนานาชาติ สำหรับ FINDING UNICORN ปี 2024 ถือเป็นจุดหมายสำคัญในการยกระดับสู่ตลาดโลก พร้อมกับการแสดงออกถึงความมั่นใจในวัฒนธรรมและนวัตกรรมของแบรนด์ ประเทศไทยซึ่งเป็นจุดศูนย์รวมของวัฒนธรรมหลากหลายทางภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และมีสังคมที่เปิดกว้าง ได้กลายเป็นเวทีสำคัญสำหรับการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระดับโลก ที่นี่ไม่เพียงแต่เป็นสวรรค์สำหรับการท่องเที่ยวแต่ยังเป็นเวทีสำหรับแบรนด์นานาชาติเพื่อแสดงพลังของตนเอง ใน วันที่ 3-4 สิงหาคม 2024 กรุงเทพมหานคร เมืองหลวงของไทยได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเทศกาลของเล่นสุดพิเศษ 2024 WONDER FESTIVAL BANGKOK โดยการปรากฏตัวครั้งแรกของ FINDING UNICORN ได้สร้างความฮือฮาอย่างมากในงานนี้ การมาของ FINDING UNICORN ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากแฟนๆชาวไทย ภายในงาน WONDER FESTIVAL BANGKOK FINDING UNICORN ได้จัดแสดงของเล่นที่มีชื่อเสียงภายใต้ธีม “FINDING SUMMER COLOR” ด้วยความประณีตของงานฝีมือ การออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ และการสร้างสรรค์ตัวละครที่มีเรื่องราว ทำให้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้สามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มวัยรุ่นในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว WONDER FESTIVAL BANGKOK FINDING UNICORN ร่วมมือกับICON SIAM ศูนย์การค้าที่มีชื่อเสียงในไทย จัดงานภายใต้ธีม “FINDING SUMMER
‘SCGD x COTTO’ เปิดแฟลกชิปสโตร์ ‘COTTO LiFE ดอนเมือง’ แลนด์มาร์กใหม่ของคนรักบ้าน ตอบทุกไลฟ์สไตล์ตกแต่ง หนุนบริษัทแม่เติบโต 2 เท่า
“SCGD x COTTO” ผนึกกำลังเปิดตัว “COTTO LiFE ดอนเมือง” แฟลกชิปสโตร์ใหญ่ที่สุดบนพื้นที่กว่า 2,500 ตร.ม. ปักหมุดแลนด์มาร์กใหม่ของคนรักบ้าน รวบรวมสินค้าตกแต่งและสุขภัณฑ์ พร้อมบริการครบวงจร ชูคอนเซปต์ “เปิดมุมมองใหม่ เปลี่ยนพื้นที่ให้ชีวิตพิถีพิถัน” สร้างแรงบันดาลใจในการตกแต่งบ้านด้วยสินค้าจาก COTTO และแบรนด์ชั้นนำระดับโลก พร้อมบริการออกแบบ 3 มิติด้วย AI ตอบทุกไลฟ์สไตล์ เดินหน้าขยายช่องทางจัดจำหน่ายเสริมแกร่ง SCGD เติบโต 2 เท่าภายในปี 2573 ผนึกกำลังร้านค้าตัวแทนจำหน่ายและโมเดิร์นเทรด มุ่งสู่การตอบโจทย์ลูกค้าครบวงจร นายนำพล มลิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
“กนอ” เปิดตัวแคมเปญ “NOW THAILAND : The Golden Era”
“กนอ” เปิดตัวแคมเปญ “NOW THAILAND : The Golden Era” ย้ำ ไทยพร้อมรับการลงทุนจากทั่วโลก! “ประธานบอร์ด กนอ.” ประกาศความพร้อม “NOW THAILAND : The Golden Era” ชูโอกาสทองลงทุนไทย ชี้ “We Moved” ตอกย้ำฟื้นการลงทุน หนุนผู้ประกอบการสร้างความยั่งยืน ด้าน “วีริศ” ย้ำ กนอ. ยุคใหม่ วาง 3 กลยุทธ์
งานแสดงนิทรรศการ สินค้า กิจกรรมทางวัฒนธรรมและความบันเทิงอย่างยิ่งใหญ่ ภายใต้ชื่อ Asia Amazing Cultural Festival (AACF) และ Asia Entertainment Expo (AEE) 2024
ตอบรับอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิงที่มีการเติบโตต่อเนื่องควบคู่กับตลาดท่องเที่ยว และจากสถิติตลาดบันเทิงสำหรับผู้ใหญ่ทั่วโลกมีมูลค่าถึง 45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2022 และคาดการณ์ว่าตลาดนี้จะเติบโตเป็นเกือบ 70 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีที่ประมาณ 7.0% ในช่วงปี 2023 ถึง 2028 เมื่อระดับความร่วมมือระหว่างประเทศในเอเชียและทั่วโลกเพิ่มขึ้น สิ่งนี้จะนำมาซึ่งแนวคิดและโอกาสใหม่ๆ ทำให้เกิดการเติบโตอย่างมากในอุตสาหกรรมบันเทิงในเอเชียและผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องในอนาคต ต่อเรื่องนี้ มร.มาริโอ้ ซู ผู้จัดการทั่วไป AACF
สถาบันอาหาร – ส.อ.ท. – สภาหอการค้าฯ ชี้ส่งออกอาหารไทยครึ่งปีแรก 67 โต 9.9% มูลค่า 8.5 แสนล้านบาท ลุ้นสิ้นปี 67 ฝ่าปัจจัยเสี่ยงสู่เป้า 1.65 ล้านล้านบาท ยันไทยยังเกินดุลการค้าจีนไม่ต่ำกว่าปีละ 2 แสนล้านบาท
สถาบันอาหาร สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เผยการส่งออกสินค้าอาหารของไทย 6 เดือนแรกปี 2567 มีมูลค่า 852,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9.9 ลุ้นครึ่งปีหลังขยายตัวต่อเนื่อง คาดอัตราต่ำกว่าครึ่งปีแรก หรือในราวร้อยละ 7.8 มีมูลค่า 797,568 ล้านบาท มั่นใจเป้าส่งออกทั้งปี 67 จะแตะ 1.65 ล้านล้านบาท
งานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2567 (Bangkok RHVAC 2024) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2567 (Bangkok E&E 2024)
กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ จับมือกลุ่มอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น และกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เตรียมจัดงานแสดงสินค้าเครื่องปรับอากาศและเครื่องทำความเย็น 2567 (Bangkok RHVAC 2024) และงานแสดงสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ 2567 (Bangkok E&E 2024) รวมนวัตกรรมใหม่ๆ ที่สนองตอบความต้องการของตลาดและสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์โลก พร้อมสินค้าและบริการหลากหลายจากผู้ผลิตชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ ภายใต้แนวคิด “One Stop Solutions for Net
เอสซีจี ร่วมสร้าง Inclusive Society ปั้นชุมชนพึ่งพาตนเอง ฟื้นน้ำ สร้างป่า พัฒนาอาชีพมั่นคง มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำไปด้วยกัน
เอสซีจี ขับเคลื่อน Inclusive Society ปลุกพลังชุมชน จัดงาน SCG “The Possibilities for Inclusive Society – เติบโตไปด้วยกัน…กับโลกที่ยั่งยืน” ชูแนวคิดระเบิดจากข้างใน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ร่วมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สังคมน่าอยู่ และสิ่งแวดล้อมยั่งยืน ผ่าน 4 ตัวแทนผู้นำชุมชน
สกัดแนวคิด “เหตุผลที่เรามารวมกัน” ตลอดเส้นทางกว่า 100 ปีของเอสซีจี
สกัดแนวคิดจากหนังสือ “เหตุผลที่เรามารวมกัน” ตลอดการเดินทางกว่า 111 ปีของเอสซีจี ชวนย้อนมองอดีตจากจุดเริ่มต้น ถึงปัจจุบัน และอนาคต การทำธุรกิจควบคู่กับดูแลสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม พร้อมปรับตัวตามทิศทางโลก เมื่อความยั่งยืนกลายเป็นกติกาสากล ที่จำเป็นต่อการก้าวไปข้างหน้าของโลกอนาคต ถึงเวลาที่ผู้คนทั่วโลกต้องร่วมมือร่วมใจกันทำอะไรสักอย่างเพื่อโลก เพราะไม่มีใครสามารถเดินไปข้างหน้าได้เพียงลำพัง หนังสือ “เหตุผลที่เรามารวมกัน” ได้ฉายภาพการเดินทางของเอสซีจีตลอด 111 ปีที่ผ่านมา นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทในปี 2456 ว่าได้พัฒนาธุรกิจควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างไรบ้าง